รถแท็กซี่ฝ่าไฟแดงพุ่งชนรถยนต์ คนขับบาดเจ็บสาหัส อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ พบมาเช่ารถแท็กซี่ได้เพียง 3 วัน ก็เกิดอุบัติเหตุ

กล้องหน้ารถยนต์ บันทึกเหตุการณ์ขณะที่รถยนต์คันที่ติดกล้อง ชกำลังเลี้ยวขวา ขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟเขียว แต่รถแท็กซี่สีเหลือง กลับวิ่งฝ่าไฟแดงมาพุ่งชนอย่างจัง บนถนนสุขาภิบาล 5 แยกขึ้นทางด่วนวัชรพล

คลิปดังกล่าวน้องชายผู้บาดเจ็บได้นำมาร้องเพจดังแห่งหนึ่ง ระบุว่า ไม่ได้รับการดูแลรับผิดชอบจากผู้ที่ก่อเหตุ

ล่าสุดน้องชาย และภรรยา ของผู้บาดเจ็บ เดินทางมาที่ สน.คันนายาว หวังจะเจอกับคนขับแท็กซี่รายดังกล่าว เนื่องจากนัดพูดคุยกับบริษัทประกันแล้วว่า จะมาพบวันนี้

ขณะเจ้าของอู่ ซึ่งมาที่สถานีตำรวจด้วย บอกว่า จากคลิป คนขับแท็กซี่ผิดชัดเจน ขณะนี้ไม่สามารถติดต่อได้ คนขับคนนี้อายุ 24 ปี มาขอเช่ารถช่วงวันแม่ ขับได้ 3 วันก็เกิดเหตุนี้ ก่อนเช่ารถบอกว่า ชีวิตลำบาก อยู่กับแม่ 2 คน ก่อนหน้านี้เคยขับแท็กซี่อยู่มีนบุรี มีใบขับขี่สาธารณะ จึงทำเอกสารให้เช่า

ด้าน นางสาววรางรัตน์ สุนนท์ ภรรยาผู้บาดเจ็บ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า อาการของสามีเจ็บหนักมาก เลือดคั่งในสมอง แพทย์เผยว่าสมองตายไปแล้ว 70% อยู่ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ตอนนี้ไม่สามารถกลับไปเป็นปกติแล้ว อาจจะเป็นเจ้าชายนิทรา

ต่อมาช่วงบ่าย คนขับรถแท็กซี่ ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา แต่เมื่อทันทีที่มาถึง ก็เกิดตะลุมบอนอย่างที่เห็น โดยฝั่งญาติผู้บาดเจ็บ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่คนขับแท็กซี่รายนี้ไม่มีการออกมาขอโทษ หรือรับผิดชอบอะไร

คนขับแท็กซี่ บอกว่า วันเกิดเหตุ ตัวเองไม่เห็นว่าไฟแดง จึงขับตรงไปตามถนนและเกิดเหตุชนในที่สุด และหลังจากนั้นก็เป็นคนลงมาช่วยดูผู้บาดเจ็บด้วย ยืนยันว่าไม่ได้ชนแล้วหนี แต่ที่ไม่ได้มาแสดงตัว เพราะตกใจ และกลัว เนื่องจากตัวเองตัวคนเดียว ส่วนวันเกิดเหตุ ไม่ได้รับผู้โดยสารมา เพราะกะจะขับรถไปปล่อยให้คนอื่นเช่าต่อ เนื่องจากตัวเองไม่มีใบขับขี่สาธารณะ ส่วนที่มาวันนี้จะขอยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา

พ.ต.อ. สิงห์ สิงเดช ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว สั่งให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำต่อไป ส่วนความผิด ตามที่ปรากฎในคลิป เข้าข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และ ความผิดทาง พรบ.จราจร ส่วนทางแพ่งและการเยียวยาก็ต้องให้ทางเจ้าของอู่รับผิดชอบ