ศาลอาญา รัชดา นัดฟังคำพิพากษาคดีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ร่วมกันกระทำความผิดในข้อหาก่อการร้าย จากการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 ซึ่งศาลได้ "ยกฟ้อง" จำเลยทั้ง 24 คน

คดีนี้ พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋งดอกจิก นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีตและพวกรวม 24 คน

นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าฟังคำพิพากษา ว่า ตลอดเวลา 9 ปีที่ผ่านมา ทุกคนได้ต่อสู้คดีอย่างดีที่สุด วันนี้เดินทางมาด้วยหัวใจ ไม่ว่าผลจะออกมายังไงก็พร้อมน้อมรับ สำหรับโทษสูงสุดของข้อหาก่อการร้าย คือ ประหารชีวิต ดังนั้นวันนี้จึงมีแค่คำว่า "ตาย" กับ "ไม่ตาย"

ด้านนายณัฐวุฒิ ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของนปช.ใน ปี 53 เพียงต้องการให้รัฐบาลคืนอำนาจให้ประชาชนเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาก่อการร้าย แต่ไม่ว่าศาลมีคำพิพากษาอย่างไร ก็เคารพและน้อมรับ โดยได้เตรียมหลักประกัน เพื่อต่อสู้ในศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาไว้แล้ว

ล่าสุดศาลอาญา ได้อ่านคำพิพากษา "ยกฟ้อง" 24 แกนนำนปช. ฐานก่อการร้ายปี 53 โดยให้เหตุผลว่า เป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องตามสิทธิทางการเมือง อีกทั้งการนำสืบของพยานของโจทย์ ไม่สามารถระบุได้ชัดว่าใคร ทำอะไร ที่ไหนอย่างไร เพียงระบุกว้างๆ ว่าเป็นกลุ่ม นปช. โดยไม่มีพยานหลักฐานว่าเป็นการกระทำของแกนนำทั้ง 24 คน

24 นปช.เฮ! ศาลยกฟ้องคดีก่อการร้ายปี 53