พ่อแม่เด็กชายวัย 2 ขวบ ติดใจการรักษาของแพทย์โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ทำลูกเสียชีวิต โดยระบุสาเหตุว่า ปอดติดเชื้อ ทั้งที่ตอนเข้ารับการรักษา ไม่มีอาการบ่งบอก มีเพียงไข้ธรรมดา ด้านผู้ว่าราชการจังหวัด สั่ง สสจ.ขอนแก่น ตรวจสอบด่วน

นางสาว ลักษณ์สุดาพร ตะโก ชาวจังหวัดขอนแก่น ระบายความในใจจากหัวอกคนเป็นแม่ ด้วยความเสียใจ ที่ต้องสูญเสีย เด็กชายนฤบดินทร์ ศรีวันทา น้องโอชิ ลูกชาย วัย 2 ขวบ 20 วัน ขณะพาเข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลของรัฐ แห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา

ซึ่งศพของน้องอชิ ถูกตั้งทำพิธีศพที่บ้านและยังไม่มีกำหนดฌาปนกิจ เพราะยังข้องใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูก

เธอเล่าว่าน้องโอชิ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิตนั้น เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ลูกชายตกเก้าอี้ ริมฝีปากแตก วันที่ 2 สิงหาคมลูกชายมีอาการไข้ตัวร้อน จึงพาไปหาหมอที่ โรงพยาบาลประจำอำเภอ ซึ่งมีแพทย์หญิง ทำการตรวจร่างกายและซักประวัติ ซึ่งหมอคนดังกล่าวยืนยันว่าลูกชายเป็นไข้ธรรมดา จากผลข้างเคียงที่เป็นแผลในปาก กินยาแก้ไข้ก็หาย ส่วนการติดเชื้อ หรือการเป็นโรคมือเท้าปากนั้นไม่มีแต่อย่างใด หรือถ้าเป็น ก็ให้กินยาที่หมอให้ไป เชื้อโรคก็จะหายภายใน 7 วัน จึงรับยาและพาลูกกลับมาพักที่บ้าน

ขณะที่ลูกชายอยู่บ้าน ก็กินยาตามหมอแนะนำ กระทั่งกลางดึกคืนวันที่ 3 ต่อเนื่องวันที่ 4 สิงหาคม ลูกชายมีอาการเหงื่อท่วมตัว เหนื่อย และตัวร้อน เช็ดตัวให้กินยาก็ไม่ดีขึ้น จึงรีบพาลูกชายส่งที่โรงพยาบาลเดิม เช้าวันที่ 4 แพทย์หญิงรายเดิมมาตรวจและซักประวัติ พร้อมบอกว่าต้องพ่นยา เพราะลูกมีอาการเหนื่อยหอบ ในเวลาไล่เลี่ยกันก็ได้ทำการเอกซเรย์ร่างกายลูกชาย จากนั้นหมอก็บอกว่าลูกชายมีอาการปอดติดเชื้อ ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลขอนแก่น เพราะที่โรงพยาบาลดังกล่าวไม่มีแพทย์เฉพาะทาง

จึงเอะใจว่าติดเชื้อได้อย่างไร เพราะสาเหตุใด พยายามถามหมอแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ แต่เมื่อหมอเจาะเลือดไปตรวจ ผลปรากฎว่าพบน้ำตาลในเลือดสูงถึง 480 จังหวะนั้น ลูกมีอาการตาลอย สามีจึงเรียกชื่อลูก และลูกก็ยังมีสติดี ยังเรียกหาพ่อ และขอกินน้ำปั่น ซึ่งขณะนั้นลูกยังนอนอยู่ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลดังกล่าว หมอยังไม่ย้ายไปโรงพยาบาลอื่น

ต่อมาหมอได้มาถามว่า พ่อแม่ยินยอมที่จะใส่ท่อช่วยหายใจให้ลูกหรือไม่ เพราะถ้าไม่ยินยอมลูกจะแย่กว่านี้ ซึ่งเธอได้บอกไปว่าไม่ยอมให้หมอใส่ท่อเด็ดขาด และพยายามหาทางเข้าไปดูลูกชายในห้องฉุกเฉิน แต่เมื่อเข้าไป ก็พบว่าลูกถูกใส่ท่อในช่องปากเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับมีเลือดทะลักออกจากปากลูก และมีพยาบาลดูดเสมหะให้ ซึ่งขณะนั้นเห็นว่าลูกชายช็อคหมดสติแล้ว จึงถามหมอว่าทำไม ทำแบบนี้ ไหนบอกว่าลูกชายไม่ได้เจ็บป่วยมาก และไหนว่าจะส่งต่อโรงพยาบาลขอนแก่น เหตุใดจึงยังไม่ส่งตัว

แต่หมอตอบมาว่าวันหยุดหมอใหญ่ไม่อยู่ ต้องรอหมอใหญ่เซ็นอนุมัติก่อนจึงจะส่งต่อได้ พร้อมทั้งไล่ให้ออกจากห้อง ไม่นานหมอและพยาบาลก็พากันเข็นลูกชายออกจากห้องฉุกเฉิน พร้อมทั้งบอกว่าลูกชายอยู่ในภาวะวิกฤติ ต้องส่งต่อไปยังอีกโรงพยาบาลที่อำเภอใกล้ๆกัน ที่มีความพร้อมทางการแพทย์ และนำร่างลูกชาย ซึ่งหมดสติและพยายามปั๊มหัวใจใส่รถพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาลอีกแห่ง แพทย์ที่โรงพยาบาลดังกล่าวแจ้งว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว ช่วยไม่ทัน ซึ่งหมอออกใบมรณะบัตรว่าเสียชีวิตจากสาเหตุปอดติดเชื้อ

โดยพ่อแม่ของน้องโอชิ ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนศิลา เพื่อให้มีการตรวจสอบการทำงานของผู้เกี่ยวข้อง และหาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย รวมถึงจะเดินหน้าร้องเรียนการทำงานของแพทย์รายนี้ไปยัง สสจ.ขอนแก่น และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นด้วย

ขณะที่ทีมข่าวพยายามติดต่อไปยังโรงพยาบาลที่ถูกร้องเรียน แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้คำตอบได้ อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ทางมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบ

ล่าสุดนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้สั่งการให้ สสจ.ขอนแก่น เร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเร็วที่สุด