เร่งช่วยชีวิตแรงงานไทยถูกนายจ้างลอยแพกลางทะเลโซมาเลีย หลังญาติเผยอดข้าว อดน้ำ กระทรวงต่างประเทศ ย้ำว่า มี 17 คน ไม่ใช่ 50 ตามที่เป็นข่าว

จากกรณีที่มีแรงงานชาวประมง ได้วีดีโอคอลมาหาเพื่อนหมู่บ้านเดียวกัน โดยระบุว่า กำลังเดือดร้อน เนื่องจากถูกนายจ้างหลอกไปทำงานประมงที่ประเทศโซมาเลีย แต่ไม่ได้จ่ายค่าจ้างมานานกว่า 5 เดือน ทั้งยังปล่อยลอยแพไว้กลางทะเลชายฝั่งเขต โบซาโซ่ ประเทศโซมาเลีย อาหารและน้ำ ใกล้จะหมดไม่มีทางกลับ อยากให้เพื่อนติดต่อประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ

โดยเรื่องราวของแรงงานไทยถูกลอยแพครั้งนี้ ถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อออม ออกัส (Aom August) ซึ่งเพื่อนแรงงานส่งมาบอกว่า กำลังต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกนายจ้างคนไทยพาไปทำประมง แล้วเชิดเงินหนี ทิ้งพวกเขาไว้กลางทะเล ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยพาพวกเขากลับบ้าน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กแชร์เรื่องราวต่อกว่า 1 พันครั้ง

ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านโคกใหม่ ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้พบกับนายสวัสดิ์ อายุ 59 ปี และนางจีรภา อายุ 54 ปี ให้ข้อมูลว่า ประมาณเดือน มีนาคม 2562 มีนายจ้าง รู้เพียงชื่อเล่นว่า "เฮียช้าง" ได้มาติดต่อหาคนในหมู่บ้าน เพื่อไปทำงานเป็นลูกเรือประมงที่ประเทศโซมาเลีย

โดยบอกว่า จะให้ค่าแรงเดือนละ 15,000 บาท ทั้งบอกว่า เรื่องเอกสารหรือพาสปอตต่างๆ จะดำเนินการให้เองทั้งหมด จากนั้นลูกชายของตนเอง และลูกชายของเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน รวมจำนวน 13 คน ก็ตอบตกลงไปทำงาน

โดยได้พากันเดินทางไปที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ทางนายจ้างได้จ่ายเงินค่าแรงล่วงหน้า 1 เดือนจำนวน 15,000 บาท ให้กับแรงงาน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อของ จากนั้นก็ขึ้นเครื่องบินไป และก็ไม่ได้ติดต่อลูกชายอีกเลย เพราะไม่รู้ว่า ติดต่อกันยังไง

จนกระทั่ง 1 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายได้โทรวีดีโอคอล มาหาลูกชายเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน บอกว่า ตั้งแต่ไปทำงาน ก็ยังไม่ได้รับค่าแรงจ้าง ตามที่นายจ้างรับปากไว้เลย จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก จนเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ทราบข่าวว่า ลูกชายได้โทรวีดีโอคอลมาหาเพื่อนอีกครั้ง ให้ช่วยติดตามประสานหน่วยงานรัฐไปช่วยเหลือ

เมื่อทราบข่าว ตนและสามีก็ตกใจ และรู้สึกเป็นห่วงลูกชายมาก กลัวว่า ลูกชายจะอดข้าว อดข้าว ทั้งเกรงจะได้รับอันตราย กลัวจะถูกโจรสลัดมากจับตัวไป จึงอยากจะวิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้หาแนวทางช่วยเหลือลูกชาย และเพื่อนแรงงานที่ไปด้วยกัน ให้กลับบ้านอย่างปลอดภัยด้วย เพราะตอนนี้ ไม่มีใครติดต่อลูกได้เลย ไม่รู้ว่า เป็นร้ายดียังไง

ขณะเดียวกัน พบว่า มีเพื่อนบ้านแวะเวียนมาสอบถามข่าวคราว และให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง และต่างภาวนาขอให้ทางหน่วยงานรัฐดำเนินการช่วยเหลือแรงงาน ที่ถูกลอยแพกลางทะเลได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยทุกคนด้วย

ขณะที่นางจีรภา ก็อยู่ในอาการที่ร้อนอกร้อนใจและรู้สึกกังวล เนื่องจากไม่สามารถติดต่อนายจ้างของลูกชายได้ จึงวีดีโอคอล สอบถามนายองคราช ผู้โพส์ตเรื่องราวดังกล่าว โดยนางองคราช ก็บอกกับนางจีรภาว่า ขณะนี้ยังสามารถติดต่อกับแรงงานในเรือประมงได้อยู่ ยืนยันว่า ทุกคนยังมีชีวิตปลอดภัยดี

แต่สิ่งที่ทุกคนฝากบอก คือ อยากให้หน่วยงานราชการ เร่งช่วยเหลือพากลับบ้านโดยเร็ว เพราะน้ำกับอาหารเหลือน้อย ไม่รู้จะยังชีพได้อีกกี่วัน ส่วนกรณีที่มีคนโทรมาบอกว่า ทางนายจ้างหรือตัวแทนบริษัทกำลังช่วยเหลืออยู่นั้น จากการสอบถามไปยังลูกเรือที่ถูกลอยแพ ก็ยืนยันว่า ยังไม่มีใครไปช่วย

ด้าน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้วพบว่า กลุ่มแรงงานไทยทั้ง 50 คน ได้เดินทางไปทำงานทางเรือประมงทะเลกับนายจ้างประเทศอิหร่าน สัญญาจ้าง 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2561 ครบกำหนดสัญญาจ้างในวันที่ 26 ตุลาคม 2563

โดยแจ้งการเดินทางด้วยตนเอง ทราบข้อมูลเรือลำหนึ่งมีแรงงาน 17 คน เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ 4 คน เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ ส่วนอีก 13 คน ไม่พบข้อมูลในระบบศูนย์ทะเบียนคนหางานไปทำงานต่างประเทศ และที่เหลืออีก 33 คน ยังไม่ทราบรายชื่อ

ซึ่งในกรณีนี้ ตามระเบียบกระทรวงแรงงานว่าด้วยการบริหารกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ พ.ศ. 2549 แรงงานที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ จะได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนฯ เป็นค่าพาหนะในต่างประเทศ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็น เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท

โดยขณะนี้ได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ ในการให้ความช่วยเหลือแรงงานโดยเร่งด่วน และได้สั่งการให้แรงงานจังหวัดและจัดหางานจังหวัด ลงพื้นที่ไปพบญาติแรงงาน เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ทางการไทยได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือแล้ว

ขณะที่ น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงไนโรบี ประเทศไนจีเรียว่า ลูกเรือจำนวน 17 คน บนเรือ Wadani 1 ขอรับความช่วยเหลือส่งกลับบ้าน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยฯกำลังหาทางให้ความช่วยเหลือ

อีกทั้งได้รับข้อมูลว่า เรือที่มาด้วยกันมี 2 ลำ คือเรือ Wadani 1 และ Wadani 2 แต่ยังไม่รับการติดต่อจากเรือ Wadani 2 ซึ่งลูกเรือแจ้งว่า กำลังเดินทางไปนอกน่านน้ำโซมาเลีย