วสท. ตรวจสอบอาคารแฝดศาลาริมน้ำที่ทรุดตัวลงในแม่น้ำแม่กลอง เกิดจากดินใต้ศาลาเคลื่อน จนทำให้เสาเข็มถูกดัดจนโค้งงอเกิดเป็นรอยแยก

รองศาสตราจารย์ วัชรินทร์ กาสลัก ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยช่างกรมโยธาธิการและผังเมือง เข้าตรวจสอบอาคารแฝดศาลาริมน้ำที่ทรุดตัวลงในแม่น้ำแม่กลอง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก 

จากการวิเคราะห์โครงสร้างเบื้องต้น ศาลาริมน้ำ สร้างโดยนำเสาเข็มเป็นเสาปูนขนาดยาวปักลงไปในดิน ก่อนจะเทพื้นศาลาเป็นคาน เชื่อมต่อกับเสาเข็มโดยตรง ซึ่งเสาเข็มด้านล่างจะทำหน้าที่รับน้ำหนักของตัวอาคารทั้งหลัง เมื่อน้ำกัดเซาะ ทำให้ดินข้างล่างเกิดการเคลื่อนตัว ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของศาลา เสาเข็มถูกดัดจนโค้งเกิดเป็นรอยแยก และทรุดพัง 

ขณะที่นางพรรณี ปั้นบรรรจง อายุ 63 ปี หนึ่งในผู้รอดชีวิต เล่าย้อนถึงนาทีระทึกว่า เธอเป็นลูกจ้างขายของอยู่ที่ศาลาริมน้ำแห่งนี้มากว่า 30 ปีแล้ว ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ สังเกตเห็นว่าทางเข้า เกิดรอยแยกระหว่างพื้นปูนกับศาลา แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร 

จนกระทั่งวันเกิดเหตุ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงดัง “แก๊ก” หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาที ศาลาก็ถล่มลง โชคดีที่ตนเองรอดมาได้ พร้อมยอมรับว่ายังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ดูภาพถ่ายที่ชาวบ้านลงไปถ่ายเสาเข็มข้างล่างตัวอาคารศาลาริมน้ำอีกหลัง ที่ยังไม่พัง มีความเห็นว่าควรหยุดการใช้งาน เพราะพบว่าเสาเข็มมีรอยแตก เผย ให้เห็นเหล็กด้านในที่ขึ้นสนิม ประกอบกับแม่น้ำแม่กลองเป็นน้ำกร่อย ยิ่งกระตุ้นให้ตัวเหล็กเป็นสนิม ซึ่งหากยังใช้งานต่อ อาจจะทำให้ทรุดตัวพังลงได้

วสท.ตรวจศาลาริมน้ำแม่กลอง คาดเกิดจากดินใต้ศาลาเคลื่อน