"ซานิ นิภาภรณ์" เปิดใจหลังไล่ตามคนขับรถชนหนุ่มขับแกร็บฟู้ดส์แล้วหนี จนสามารถจับตัวได้ โดยเจ้าตัวบอกว่า ตอนนั้นคิดแค่ว่าต้องหาคนมารับผิดชอบคนบาดเจ็บให้ได้

จากอุบัติเหตุรถยนต์ชนแกร็บฟูดส์ จนได้รับบาดเจ็บแล้วหนี ภายในซอยรามคำแหง 24 บริเวณเชิงทางลงอุโมงค์มุ่งหน้าไปพัฒนาการ เมื่อคืนวันที่ 14 ก.ค. เวลา 20.17 น. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นนักร้องนักแสดงสาว “ซานิ นิภาภรณ์ ฐิติธนการ” หรือ “ซานิ เอเอฟ” เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ และได้ช่วยติดตามรถยนต์ที่ชนแล้วหนีไปได้ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบ จนเป็นที่ชื่นชมของผู้พบเห็นเหตุการณ์

นายกิตติ สมนึก อาสากู้ภัยวังทองหลาง เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้รับแจ้งเหตุว่ามีแกร็บฟู้ดส์ถูกรถยนต์เก๋งชนแล้วหนี ได้รับบาดเจ็บที่ขาด้านซ้าย จึงรีบไปยังที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ซึ่งระหว่างนั้นทราบว่ามีนักร้องสาว “ซานิ เอเอฟ” ได้ขับรถผ่านบริเวณดังกล่าวและได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ซานิจึงโบกรถมอเตอร์ไซต์ที่ขับผ่าน ซึ่งมอเตอร์ไซต์คันที่ซานิโบก เป็นหญิงสาวที่เห็นเหตุการณ์ด้วยเช่นเดียวกัน โดยทั้ง 2 ได้ขับรถตามรถคู่กรณีไป จนไปพบรถคู่กรณีที่ซอยพัฒนาการ 27

ในขณะที่นักร้องนักแสดงสาว “ซานิ นิภาภรณ์ ฐิติธนการ” หรือ “ซานิ เอเอฟ” เล่าว่า ตนเลิกงานกำลังเดินทางกลับบ้านกับคุณแม่ เห็นเหตุการณ์ที่รถยนต์คันหนึ่งกำลังจะยูเทิร์นรถบริเวณซอยรามคำแหง 24 แต่เฉี่ยวชนรถมอเตอร์ไซค์จนล้มและได้รับบาดเจ็บ แต่กลับไม่ลงมาช่วยเหลือ ตนจึงพูดคุยกับพลเมืองดีคนอื่นและตัดสินใจซ้อนมอเตอร์ไซค์ของพลเมืองดีที่เป็นนางพยาบาลโรงพยาบาลศิริราชตามไป จนถึงอุโมงค์พัฒนาการ จนพบกับรถยนต์คันดังกล่าวตนได้พูดคุยกับคนที่ชน ให้กลับไปรับผิดชอบผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่อีกฝ่ายอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาชน ก็ได้มีการพูดจนอีกฝ่าย ยอมกลับมารับผิดชอบ ส่วนผู้บาดเจ็บก็นำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อย 

พร้อมบอกว่า ในหัวตนขณะนั้นคิดเพียงอย่างเดียวว่าต้องตามคนผิดกลับมารับผิดชอบให้ได้ โดยไม่ทันคิดถึงความปลอดภัยของตัวเอง แต่ก็ยกความดีให้กับพลเมืองดีคนอื่นๆ ด้วย ที่มีน้ำใจลงมาช่วยเหลือกันทุกทางที่จะทำได้ ไม่ได้ทำเพื่อหวังจะเป็นข่าว ทั้งยังบอกอีกว่า เป็นเรื่องที่ต้องช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้สังคมไทยน่าอยู่ด้วยน้ำใจที่มีให้กัน และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนยื่นมือช่วยเหลือคนอื่น เพียงแต่ยุคนี้สื่อโซเชียลกระจายข่าวได้ไว จึงเห็นได้ในวงกว้างและรวดเร็วเท่านั้น

ทั้งนี้ พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ได้เผยกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ขณะนี้คู่กรณีได้แสดงความรับผิดชอบกับผู้เสียหายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าของรถยนต์เป็นชายวัย 63 ปี ไม่มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด และให้เหตุผลว่ามองไม่เห็น