กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. คาดว่าปี 60 ร่าง พ.ร.บ.ใหม่ให้นายจ้างหักเงินเดือนและค่าจ้าง เพื่อชำระคืนกองทุน หลังผ่าน ครม. เมื่อมีนาคมที่ผ่านมา

นางสาวฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการยกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ใหม่ของ กยศ. ว่า ที่ผ่านมากองทุนมีความพยายามที่จะปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน และการติดตามหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดทางกฎหมายบางประการ จึงไม่สามารถทำอะไรได้เท่าที่ควร ทำให้กองทุนต้องพึ่งพางบประมาณแผ่นดินจากรัฐบาลในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก เพื่อนำเงินมาจัดสรรให้กู้ยืม เป็นผลให้กองทุนต้องยกร่าง พ.ร.บ. ใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับผู้กู้ยืม และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทั้งด้านการให้กู้ยืม และติดตามหนี้

ทั้งนี้ พ.ร.บ. ดังกล่าวจะระบุไว้ว่าให้มีการกู้ และการนำส่งคืนเงินอย่างรัดกุมเหมาะสม รวมทั้งไม่ให้เกิดปัญหาซับซ้อนในการกู้ยืม และให้บรรจุกฎหมายใหม่ของกองทุน เป็นกฎหมายเร่งด่วนตามบัญชีร่างกฎหมายเร่งด่วนชุดที่ 2 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559

โดยกฎหมายใหม่ได้กำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่หักเงินเดือน และค่าจ้างนำส่งกรมสรรพากร พร้อมกับการนำส่งภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย เพื่อชำระคืนกองทุน และเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้กองทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้กู้ยืมได้

อย่างไรก็ตาม เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงให้กับผู้กู้ยืมที่จะไม่ต้องเสียเบี้ยปรับกรณีค้างชำระ หรือต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดี กรณีที่ค้างชำระเป็นเวลานาน และขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ในระหว่างการตรวจพิจารณา ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 2560

นอกจากนี้รัฐบาล ยังช่วยผลักดันนโยบายต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างวินัยและความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นในสังคมไทย จนมีผู้กู้ยืมนำเงินมาชำระหนี้ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้กองทุน กยศ.และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต หรือ กรอ. พึ่งพางบประมาณแผ่นดินน้อยลงมาก ในปีงบประมาณ 2560