ฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์! จำคุก "เชาวรินทร์" 2 ปี คดีฉ้อโกงเงินซื้อปูนกว่า 11 ล้านบาท ไม่รอลงอาญา

วันที่ 10 ก.ค. 2562 เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีฉ้อโกงทรัพย์หมายเลขดำ อ.639/58 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 และ บริษัท บี.พี.ซี เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) เป็นโจทก์ร่วมยื่นฟ้อง ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ อายุ 73 ปี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14 (1) และ 17 (1)

โดยเป็นกรณีสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2557 จำเลยได้ฉ้อโกงเงินจาก บริษัท บีพีซี.เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) ที่ชำระค่าสินค้าปูนซิเมนต์ ที่สั่งซื้อจาก พีทีไอ.โพลีน จำกัด จำนวนเงิน 352,781 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 11,428,308 บาท) แต่ระหว่างวันที่ 6 - 9 พ.ค. 2557 จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันเปลี่ยนแปลงข้อมูลใบเก็บเงินค่าสินค้าใหม่ และให้ บริษัท บีพีซี.เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) โอนเงินค่าซื้อปูนซิเมนต์จำนวนดังกล่าว ผ่านเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย สาขารัฐสภา โดยใช้ชื่อบัญชีว่า Thai and Chinese Bhuddhist Culture (สมาคมวัฒนธรรมวิถีพุทธไทย-จีน) ซึ่งมีจำเลยเป็นนายกสมาคมฯ โดยทุจริต เป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จนทำให้ บริษัท บีพีซี.เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) หลงเชื่อว่าเป็นบัญชีของ พีทีไอ.โพลีน จำกัด ผู้เสียหายที่ 2 จนมีการโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวที่เป็นของจำเลยกับพวก แล้วต่อมาจำเลยได้โอนเงินเข้าบัญชีของตัวเอง เหตุเกิดขึ้นที่แขวง-เขตดุสิต แต่จำเลยให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และขอต่อสู้คดี

สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2558 ให้จำคุก ร.ต.ท.เชาวรินทร์ 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้คืนเงินจำนวน 352,781 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 11,428,308 บาท) คืนแก่โจทก์ร่วมด้วย ซึ่งหลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์

ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้เพิ่มโทษเป็นจำคุก 3 ปี แต่คำเบิกความจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้คืนเงินจำนวนดังกล่างแก่โจทก์ร่วมด้วย จากนั้นจำเลยได้ยื่นฎีกา และได้รับการประกันตัววงเงิน 1 ล้านบาท

โดยล่าสุดในวันนี้ ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก 2 ปี จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัว ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ไปห้องคุมขังเพื่อเตรียมนำไปเรือนจำบังคับตามคำพิพากษาศาลฎีกาต่อไป