นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียน ระบุ ไทยพร้อมพัฒนาประเทศไปสู่ความก้าวหน้า ยันมีรัฐบาลใหม่แน่นอน ขอบคุณประชาชนไว้วางใจให้ทำหน้าที่นายกฯต่อ

วันที่ 21 มิ.ย. 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียน ครั้งที่ 5 (The Fifth Bloomberg ASEAN Business Summit – ABS) ณ โรงแรม Waldorf Astoria กรุงเทพมหานคร เนื่องในโอกาสการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียน ครั้งที่ 5 ในหัวข้อ "The Future of Thailand and ASEAN"

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานนี้ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและสำคัญต่อประเทศไทยและอาเซียน เนื่องจากประเทศไทยรับหน้าที่ประธานอาเซียนในปีนี้ และจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมในหลายด้าน ที่จะเดินหน้าพัฒนาประเทศไปสู่ความก้าวหน้าพร้อมกับภูมิภาค เพราะปัจจุบัน ไทยมีเสถียรภาพ ก้าวพ้นสถานการณ์ความไม่สงบ มีความปรองดอง การเลือกตั้งเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย ที่เป็นไปตามโรดแม็ปจนทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ และส่วนตัวยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อ โดยจะพยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อสืบสานนโยบายพัฒนาประเทศ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ในปี 2561 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ร้อยละ 4.1 ถือเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 6 ปี ภาคการท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่อง มีเงินสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูงเป็นอันดับ 12 ของโลก และยังตั้งเป้าหมายเป็นระเบียงเศรษฐกิจแห่งเอเชียตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยประเทศไทยจะไม่มีรากหญ้า รากแก้ว เพราะทุกวันนี้ต้องเรียกว่ารากฐาน เพราะทุกคนต้องเท่าเทียมกัน ในฐานะประธานอาเซียนในปีนี้ ไทยจะนำเสนอแนวคิดหลัก คือ "ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน" เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ
ให้เป็นอาเซียนที่ไร้รอยต่อ โดยหลังการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ไทยจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำ G20 ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะประธานอาเซียนด้วย เพื่อย้ำหลักคิดดังกล่าว จึงขอให้ภาคเอกชนเชื่อมั่นและใช้ประโยชน์จากโอกาสและความพร้อมของไทยและอาเซียน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าที่ผ่านมามีกฎหมายที่ออกมาใหม่ 300-400 กฎหมาย ทั้งเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน การใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อยและสร้างโอกาสแห่งความเท่าเทียม เพราะรายได้หลักของทุกรัฐบาลมาจากภาษีประชาชน จึงขอให้ใจเย็นๆ พร้อมยืนยันว่ามีรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนตัวก็เป็นหนึ่งในรัฐบาลใหม่ และจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่เรียบร้อย เรื่องไหนไม่สำคัญก็จะไม่ตอบ