เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังเด็กชายวัย 15 ปี เสียชีวิตปริศนา ขณะเข้าเรียนกวดวิชาสอบนักเรียนนายร้อย พ่อยังเชื่อลูกถูกซ้อม ล่าสุด มีแม่อดีตนักเรียนคนหนึ่ง ออกมาเปิดเผยว่า ลูกเคยถูกลงโทษโหด จนทนไม่ไหวต้องปีนรั้วหนี

หญิงอายุ 42 ปี เปิดใจกับทีมข่าว หลังเคยส่งลูกชายไปเรียนที่สถาบันกวดวิชานักเรียนนายร้อย ในอำเภอเมืองนครสวรรค์ แต่ลูกอยู่ได้เพียง 5 วัน เพราะถูกทำร้ายโหด ถูกรุมซ้อมจากครูและเพื่อนนักเรียนด้วยกัน จนต้องปีนรั้วหนี

แม่เล่าว่า หลังเกิดเรื่องพาลูกไปตรวจร่างกายก็พบว่ามีรอยฟกช้ำทั่วตัว จึงไม่ให้ลูกกลับไปเรียนอีก และเรื่องนี้ยังทำให้ตนกลายเป็นหนี้ค่าเรียน 250,000 บาท เพราะตอนแรกไม่มีเงินจ่าย จึงได้ทำสัญญาเงินกู้กับครู ขอผ่อนจ่ายเดือนละ 10,000 บาท

หลังเกิดเรื่อง ครูก็โทรมาทวงเงิน และยังขอค่าเสียหาย 18,000 บาท อ้างว่า เป็นค่าเสียหายตอนที่ลูกชายปีนรั้วหนี และยังขู่ว่า ถ้าไม่ยอมจ่าย ก็จะไม่ยกเลิกสัญญาเงินกู้ให้ ตนเห็นว่า เรื่องนี้ไม่ถูกต้องจึงเข้าแจ้งความ

ขณะที่ลูกชายบอกว่า ไปเรียนได้ 2 วันแรก ก็โดนไม้เบสบอลตีที่หัว ถูกบังคับให้ซิทอัพ 200 ครั้ง แต่ทำได้แค่ 20 ครั้ง เพราะเหนื่อยหายใจไม่ออก ถูกครูต่อว่า ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และให้เพื่อนที่เรียนด้วยกันรุมกระทืบ

โชคดีที่ดิ้นหลุดมาได้ แต่ก็บาดเจ็บ ตามแขนขา มีรอยถลอกจากการโดนลากไปกับพื้นคอนกรีต ดั้งจมูกมีรอยช้ำจากการโดนชก ในใจคิดว่า หากอยู่ต่อต้องตายแน่ จึงตัดสินใจหนี และยิ่งเมื่อวานเห็นข่าวเพื่อนตายก็อยากออกมาเปิดเผยข้อมูล

ขณะที่เจ้าของสถาบันกวดวิชา ยืนยันว่า ไม่เคยลงโทษเด็กรุนแรง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการเล่นกันของเด็กเท่านั้น พร้อมให้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด จะไม่หลบหนีเด็ดขาด ซึ่งพรุ่งนี้ ตนและเด็กนักเรียนจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจด้วย

ส่วนศพของเด็กชายวัย 15 ปี ถูกนำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดส้มเกลี้ยง จังหวัดตากแล้ว ซึ่งพ่อ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สดุ เพราะไม่เชื่อว่า เป็นการเล่นกันของเด็ก เนื่องจากลูกบอบช้ำมาก แถมอวัยวะเพศของยังเป็นแผล ทราบว่า เคยถูกใช้ไฟลน จึงอยากให้ตำรวจช่วยสืบสวนข้อเท็จจริงด้วย