"เลือดออกในปอด" ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ "ปอดแตก" ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเลือดออกในปอด มี 3 ประเด็น คือ เนื้อปอดผิดปกติ หลอดลมในปอดมีเนื้องอก และเส้นเลือดในปอดเจริญผิดปกติ

แพทย์หญิงธัญนุช สัญชาติ แพทย์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานอายุรศาสตร์ปอด ด้านเวชกรรมสาขาอายุรกรรม สถาบันโรคทรวงอก เผยกับทีมข่าวช่อง8 ถึงอาการ "เลือดออกในปอด" ว่า ภาวะเลือดออกในปอด จะแบ่งเป็น เลือดออกมาก หรือ เลือดออกแบบรุนแรง ถ้าเลือดออก 1 ครั้ง ปริมาณมากกว่า 200 CC หรือว่า ใน 1 วัน มากกว่า 600 CC ถือว่าเป็นภาวะเลือดออกปริมาณมากที่รุนแรง ซึ่งเป็นภาวะที่เสี่ยงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ "เลือดออกในปอด" เกิดจาก 3 ส่วน

1.เนื้อปอดผิดปกติ เช่น มีการอักเสบ อาจจะมีการติดเชื้อที่รุนแรง เชื้อรา เชื้อวัณโรค ปอดอักเสบA โรคทางพัธุกรรม การเจริญเติบโตของเนื้อปอดที่ผิดปกติตั้งแต่เด็ก

2.มีก้อนเนื้องอกในหลอดลม สาเหตุนี้จะทำให้เลือดออกได้

3.เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหลอดลม และเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้อปอด เจริญเติบโตผิดปกติ เส้นเลือดที่เจริญผิดปกติ จะมีรูปร่างที่ผิดปกติ ซึ่งข้อนี้จะไม่แสดงอาการ

สำหรับปัจจัยการสูบบุหรี่ หรือ ดื่มสุรา ไม่มีส่วนทำให้เลือดออกในปอด ยกเว้น กรณีที่สูบบุหรี่มาก แล้วเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเป็นมะเร็งปอด เพราะก้อนมะเร็งในเนื้อปอดหรือหลอดลม จะเป็นสาเหตุทำให้เลือดออกได้ "ปอดแตก" จะมีอาการเจ็บหน้าอก ในส่วนของอาการ "ปอดแตก" ไม่สัมพันธ์ที่ทำให้เลือดออกในปอด

ข้อสังเกตุอาการเลือดออกในปอด

ถ้ามีอาการไอและมีเสมหะปนเลือด หรือไอเป็นเลือด ครั้งหนึ่งไม่เกิน 5-10 CC หากเป็นแล้วไม่หาย เป็นเรื้อรัง ให้รีบไปตรวจ แต่กรณีที่ไอเป็นเลือดแบบรุนแรง เราไม่สามารถสังเกตุอาการได้ได้ เมื่อมีอาการให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด