หนุ่มขนส้มเจอยาบ้ากว่า 5 หมื่นเม็ด โทร.แจ้งตำรวจกลับถูกจับ ทั้งที่ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้อง ล่าสุด ศาลสั่งปล่อยตัวออกมาแล้ว หลังหลายหน่วยงานช่วยเหลือ

กรณีที่หนุ่มอายุ 36 ปี ซึ่งรับจ้างขนส้มไปทิ้ง แล้วเจอยาบ้าห่อใหญ่ จำนวนกว่า 5 หมื่นเม็ดซุกในลังส้ม เมื่อนำไปแจ้งตำรวจภูธรคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี แต่กลับโดนจับกุม ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน

ทำให้ภรรยาของหนุ่มขนส้ม พาลูก 2 คน ไปร้องเรียนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยลูกชายวัย 11 ปี ถือป้ายว่า “ช่วยพ่อผมด้วย พ่อผมเป็นแพะ” ขณะที่ภรรยาก็อุ้มลูกชายวัย 1 ขวบร้องไห้ พร้อมบอกว่าขอตายดีกว่า พร้อมยืนยันว่า สามีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งเรื่องดังกล่าว นายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความได้นำเรื่องราวมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก

ล่าสุด นายวรกร ได้เปิดเผยว่า ทีมงานกระทรวงยุติธรรม ได้ให้เจ้าหน้าที่มาสอบคำให้การของหนุ่มคนดังกล่าว จึงทราบว่า เป็นแพะจริง ไม่ได้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่จึงใช้เงินกองทุนฯ ช่วยเหลือประกันตัว

ขณะที่พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนคดีนี้ หากผลออกมาว่า ไม่ผิดจริง คงจะมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับคดีนี้ต่อไป

กระทั่งช่วงบ่าย ศาลธัญบุรีได้สั่งปล่อยตัวชายคนดังกล่าว ซึ่งถือเป็นคดีแรกของประเทศไทยที่ผู้ต้องหาคดียาเสพติด มีการปล่อยตัวในชั้นตำรวจ โดยเฉพาะในคดียาเสพติด และไม่ใช่เป็นการปล่อยตัวชั่วคราว

โดยต่อจากนี้ หากอัยการเห็นชอบตามตำรวจ ก็ถือว่า คดีสิ้นสุด โดยบรรยากาศการปล่อยตัวมีภรรยาและลูก มารอรับด้วยความดีใจ

สำหรับคดีนี้ ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้รับจ้างจากนายจ้าง ให้ขับรถขนส้มไปทิ้ง บริเวณซอยเทพกุญชร 10 แขวงคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี แต่พบยาบ้า 52,000 เม็ด ซุกอยู่ในลังส้ม จึงโทรแจ้งตำรวจภูธรคลองหลวง

แต่ตำรวจกลับแจ้งความเขา ก่อนที่จะขยายผลจับกุมผู้ต้องหาอีกคน ซึ่งรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของยาเสพติด และไม่ได้ซัดทอดหนุ่มขนส้มแต่อย่างใด แต่หนุ่มคนดังกล่าว ต้องถูกคุมขังที่เรือนจำธัญบุรี ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน เพราะไม่มีเงินประกัน กระทั่ง ได้รับการปล่อยตัววันนี้