ตำรวจคุมตัวสามีสาว 18 ปี สอบเข้ม มุ่งปมฆ่าชิงทรัพย์ควบคู่เรื่องชู้สาว

ความคืบหน้าคดี ฆาตกรรมอำพรางหญิงสาววัย 18 ปี ที่เพิ่งแต่งงานได้ 5-6 เดือน หายออกจากบ้านสามี กลายเป็นศพถูกเผา พร้อมรถจักรยานยนต์ อยู่ในคูข้างถนน

ล่าสุด ตำรวจภูธรกาญจนดิษฐ์ ได้เชิญตัว สามีเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ก่อนคุมตัวไปยังร้านทอง ที่เคยไปซื้อสร้อยคอทองคำมูลค่า 1 บาท และแหวนทองคำให้ผู้ตาย เนื่องจากต้องการทราบตำหนิ รูปพรรณทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายที่ใส่ติดตัวในวันเกิดเหตุ และหายไป

ทั้งนี้ ตำรวจตั้งปมสังหารว่า เป็นการฆ่าชิงทรัพย์ ควบคู่ไปกับเรื่องชู้สาว เนื่องจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว ถึงแม้จะปรากฏภาพ สามีผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังไป แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 3 นาที ก็ขี่รถกลับมาอีกครั้งหนึ่ง จึงเป็นไปได้ยากที่จะเป็นผู้ก่อเหตุ

ทำให้น้ำหนักขณะนี้ มุ่งไปที่ผู้ต้องสงสัย เป็นชาย อายุ 27 ปี อาศัยอยู่บ้านตรงข้ามจุดพบศพ ประกอบกับผลตรวจร่างกาย พบว่า ตามร่างกายมีร่องรอยเหมือนถูกขีดข่วน

ทีมข่าวยังลงพื้นที่พูดคุยกับ ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง บอกว่า หลังเกิดเรื่อง ไม่พบสามีผู้ตายมารับซื้อน้ำยางเลย และไม่เห็นอยู่บ้าน พบเพียงพ่อกับเเม่

ซึ่งชาวบ้านรายนี้ ยังกล่าวด้วยว่าไม่มีใครกล้าถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะสงสารครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งต้องสูญเสียคนที่รัก อีกฝ่ายหนึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัย ขณะที่ ก่อนหน้านี้สามีของหญิงอายุ 18 ปี เปิดใจยืนยันว่า ไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ และยังรักภรรยาสุดหัวใจ

และจากการพูดคุยกับ นายปิยะ ศิริทาน พ่อเลี้ยงผู้ตาย บอกว่า ญาติทุกคนยังคงติดใจว่าสามีมีส่วนรู้เห็น เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่าง และน่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุฆาตกรรมลูกสาวหลายคน เพราะเครื่องในลูกหายไป และจากการไปสอบถามสัปเหร่อของวัดใกล้บ้าน ทราบว่า จากสภาพศพที่พบควรจะยังหลงเหลืออวัยวะภายในบ้าง เนื่องจากต้องใช้เวลาเผานานที่สุด แต่ที่เจอศพกลับไม่มีอวัยวะภายในเลย