หนุ่มคนหนึ่งโพสต์ประสบการณ์การใช้ครีมหน้าขาว ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์จนหน้าพัง เหมือนตายทั้งเป็น ขณะที่แพทย์เตือนใช้ครีมที่มีสารสเตียรอยด์ รุนแรงกว่าที่คิด อาจติดเชื้อในกระแสเลือดได้

ภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยแผลพุพองของชายคนหนึ่ง ที่นำเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์แสนทรมาน จากการใช้ครีมที่มีสารสเตียรอยด์ผสม มาโพสต์ลงในเว็บไซต์ออนไลน์ว่า เมื่อปี 2559 ต้องการจะผลิตครีมขาย จึงทดสอบสินค้ากับตัวเอง พบว่า หน้าใสขึ้นจนคนทัก

แต่เมื่อใช้จนครีมหมด ปรากฏว่า สิวขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ รักษายังไงก็ไม่หาย จึงไปพบแพทย์ได้รับยาที่มีสารสเตียรอยมาใช้รักษา โดยแพทย์ให้ใช้เพียง 7 วัน แต่ใช้ไปเกือบ 2 อาทิตย์ เกินจากแพทย์สั่ง จากนั้น หยุดใช้กะทันหัน หน้าก็เริ่มมีสิวเห่อขึ้นมาอีกครั้ง จึงใช้ว่านหางจระเข้ทารักษา ทำให้หน้าหายคันได้สักพัก ก่อนกลับมามีอาการหนักกว่าเดิม

จนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 กลับมาใช้สเตียรอยด์อีกครั้งเกือบ 3 อาทิตย์ ก่อนหยุดใช้ ปรากฏว่า ทั้งหน้ามีผื่นแพ้ มีน้ำเหลือง จนต้องตื่นมากลางดึก เพื่อซับน้ำเหลือง และในที่สุดต้องแอดมิดด่วน เพราะหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก หน้าก็เละเหมือนโดนน้ำร้อนลวก ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เป็นเวลา 2 อาทิตย์แล้ว

ทีมข่าวสอบถามไปยังนายแพทย์ สิทธา ลิขิตนุกูล แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ ที่มีความรู้เกี่ยวกับการรักษาผิวหน้า ระบุว่า ใบหน้าของคนเราเป็นส่วนที่อ่อนบาง เมื่อใช้สารสเตียรอยด์ และหยุดใช้ ก็จะทำให้สารสเตียรอยด์ในระดับเลือดตกไปทันที

ทางการแพทย์เรียกว่า เป็นการเทคออฟ จะทำให้เกิดผลข้างเคียง เกิดผื่นคัน และเกิดแผลติดเชื้อ หากเลวร้ายสุดอาจลุกลามติดเชื้อในกระแสเลือดได้

นอกจากนั้น แพทย์ยังเตือนอีกว่า ยังมีสารหลายตัวที่มักนำมาใช้ในการผลิตครีมหน้าขาว อย่างเช่นสารปรอท ที่ไม่ควรใช้ หรือถ้าหากจำเป็นต้องใช้สารสเตียรอยด์ ก็ควรใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์เท่านั้น

หนุ่มโพสต์เตือนภัย พิษครีมสเตียรอยด์ทำหน้าพังเละ