เด็กหญิงวัย 1 ขวบ ติดอยู่ในรถเก๋ง ชาวบ้านพยายามช่วย แต่กลายเป็นเรื่องดราม่า เมื่อแม่เด็กไม่พอใจที่รถเป็นรอย

เหตุการณ์ที่ภรรยาช่างซ่อมกุญแจ พยายามใช้ลวดสอดเข้าไปทางช่องกระจกเพื่อปลดล็อคประตูรถช่วยเด็กหญิงวัยประมาณ 1 ขวบ ที่ติดอยู่ในรถยนต์คันหนึ่ง หลังแม่เด็กลงจากรถโดยดับเครื่อง และวางกุญแจแบบรีโมทไว้ในรถ ทำให้ประตูล็อคอัตโนมัติ ที่หลังตลาดกิมหยง เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้าน กู้ภัย และตำรวจสายตรวจ พยายามใช้มีดช่วยกันปลดล็อกประตูแต่ก็ไม่สำเร็จ จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ชาวบ้านต่างเป็นห่วงเด็กกลัวว่าจะไม่มีอากาศหายใจ จึงบอกให้แม่ทุบกระจกรถ แต่แม่เด็กก็ไม่ยอม สุดท้ายต้องประสานไปยังบริษัทเจ้าของรถช่วยปลดล๊อครีโมทแบบทางไกลให้ ช่วยเหลือเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย 

แต่เหตุการณ์นี้กลับทำให้แม่เด็กซึ่งเป็นเจ้าของรถไม่พอใจ ที่ประตูรถมีรอยขูดขีด และถามหาความรับผิดจากชอบหญิงสาวที่พยายามช่วยปลดล๊อค 

ด้าน หญิงสาวพลเมืองดีที่ช่วยเปิดประตูรถ บอกว่า รู้สึกงงมากหลังเกิดเหตุหญิงสาวคนนี้ได้โทรศัพท์มาหา บอกให้ชดใช้ค่าเสียหาย 

โดยสามี ของตนเปิดร้านทำกุญแจ และรู้จักกับสามีของหญิงสาวคนนี้ดี ซึ่งตนได้บอกหญิงสาวคนนี้ไปว่า ได้ช่วยอย่างเต็มที่แล้ว หากต้องการให้ชดใช้ค่าเสียหาย ก็ให้สามีโทรมาคุย ก่อนวางสายไปหลังจากนั้น ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอีก 

ด้าน ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า การที่เด็กติดอยู่ในรถ เพราะความประมาทของแม่เอง แล้วมีคนไปช่วยลูก ถึงแม้ รถจะเสียหายแค่ไหน ผู้ที่เข้าไปช่วยเด็กก็ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญา ซึ่งในทางอาญา ผู้กระทำไม่ต้องรับโทษ ฐานทำให้เสียทรัพย์ เพราะเป็นความจำเป็น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67 และในทางแพ่ง ก็ไม่ต้องรับผิด ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 450 

ขณะที่มีผู้แสดงความเห็นว่า ขณะเกิดเหตุเจ้าของรถได้ห้ามไม่ให้งัดแล้ว เพราะอยู่ระหว่างประสานงานกับศูนย์รถยนต์เพื่อให้เปิดล็อกทางไกลได้

ทนายยันแม่เอาผิดคนช่วยงัดรถช่วยเด็กไม่ได้