ชาวนาถือฤกษ์ดีวันพืชมงคล ปักดำต้นกล้าและหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อเป็นสิริมงคล หวังให้ต้นข้าวเจริญงอกงาม และขอให้ขายได้ราคา

ชาวนาในพื้นที่ตำบลประดู่ยืน อำเภอลานสัก และตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน ที่จังหวัดอุทัยธานี ถือฤกษ์ดีวันพืชมงคล ปักดำต้นกล้าและเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยวิถีการทำนาในปัจจุบันนี้เปลี่ยนไป ไม่ใช้วิธีลงแขกแบบดั้งเดิม แต่เปลี่ยนมาใช้เครื่องมือการเกษตรแบบใหม่ ในการปักดำต้นกล้าและหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว

ชาวนารายหนึ่ง บอกว่า ทุกปีจะถือเอาฤกษ์ดีในวันพืชมงคล เริ่มต้นทำนาหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว เพราะเชื่อว่า จะเป็นสิริมงคล ทำให้ต้นข้าวเจริญงอกงาม อุดมสมบูรณ์ ตามความเชื่อที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

ส่วนชาวนาที่ตำบลคุ้งสำเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ก็ได้นำนำเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เตรียมไว้หว่านในแปลงนาในวันฤกษ์ดี วันพืชมงคลเช่นกัน

นายบุญส่ง เทิ้มกิ่ม ชาวนาในตำบลคุ้งสำเภา บอกว่า ปีนี้อยากรัฐบาลช่วยพยุงราคาข้าวอย่างจริงจัง เพื่อให้ชาวนาพอมีกำไรไปใช้หนี้สินที่พอกพูน เพราะปัจจุบันต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงทั้งค่าแรง ค่าปุ๋ย ยา รวมกว่าไร่ละ 6 พันบาท โดยต้องการขายข้าวให้ได้ตันละ 1 หมื่นบาทขึ้นไปชาวนาจึงจะมีทางรอด

ที่จังหวัดลำปาง สถานการณ์ภัยแล้งและอากาศร้อนในหลายพื้นที่ ทำให้ชาวนาไม่กล้าเสี่ยงที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวในเวลานี้ แม้ว่า วันนี้จะเป็นวันพืชมงคลก็ตาม เพราะกลัวว่า ฝนที่ทิ้งช่วงไปนาน และอากาศร้อนจัดจะทำให้ต้นข้าวขาดน้ำและแห้งตาย

โดยวันนี้ชาวนาหลายคนถือโอกาสเอาฤกษ์ดีวันพืชมงคล ในการไถพรวนดินตามทุ่งนา เพื่อกลบวัชพืช และฟางข้าวเพื่อเป็นปุ๋ยบำรุงดินอย่างเดียวเท่านั้น รอให้มีฝนตกลงมาบ้างจึงจะทำการเพาะปลูกต่อไป

ปิดท้ายที่จังหวัดอุบลราชธานี ชาวนาในพื้นที่บ้านสำโรง ตำบลสำโรง อำเภอสำโรง นำรถไถมาปรับหน้าดินที่ใช้ในการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิ โดยถือฤกษ์ดีวันพืชมงคล เพราะเชื่อว่า ฤกษ์ดีในวันนี้นั้นจะทำให้ผลผลิตงอกงาม

อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศในพื้นที่ค่อนข้างแห้งแล้ง ดินที่ใช้เพาะปลูกก็แข็งกว่าปกติ แต่เชื่อมั่นว่าผลผลิตข้าวหอมมะลิ จะไม่เสียหายจากความแห้งแล้งมากนัก น่าจะขายได้เงินดีพอสมควร