ปมถือหุ้นสื่อของผู้สมัครส.ส.พรรคต่างๆ ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนที่แต่ละพรรคต้องเร่งชี้แจงต่อสังคมและต่อกกต. ล่าสุดนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ซึ่งถูกพาดพิงโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ระบุว่า ยินดีชี้แจงและพร้อมรับคำตัดสิน ขณะที่นายธนาธร อธิบายว่าไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกันนะ แค่ยกตัวอย่างเท่านั้น และยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้แพ้แล้วพาล กรณีเรียกร้องให้จัดเลือกตั้งใหม่ของเขต 1 จังหวัดนครปฐม

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนางสาวสาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นครปฐม ลงพื้นที่พบปะผู้สนับสนุนและประชาชนชาวนครปฐม ภายใต้ชื่อกิจกรรม Future is Now ครั้งที่ 3 ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น บรรดาแฟนคลับก็มาขอถ่ายภาพ ขอลายเซ็นกันอย่างคึกคัก ภายในงานมีการจำหน่ายเสื้อ และของที่ระลึก ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเช่นกัน

นายธนาธร ชี้แจงกรณีพรรคอนาคตใหม่ เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการเลือกตั้งใหม่ในเขต 1 นครปฐม ว่า ไม่ได้แพ้แล้วพาล หรือ ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง แต่เป็นเพราะความผิดปกติที่เกิดขึ้นหลายอย่าง จึงอยากให้กกต.ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งหากเลือกตั้งใหม่ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร จำนวน ส.ส.พึงมีของพรรคก็เท่าเดิม

ส่วนกรณีโพสเฟซบุ๊ก พาดพิงนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าเป็นหนึ่งใน ว่าที่ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อที่ถือหุ้นสื่อ นายธนาธร ยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับนายณัฏฐพล แต่เป็นเพียงการยกตัวอย่างเท่านั้น และเหตุผลที่ตั้งตั้งทีมงานตรวจสอบการถือหุ้นของว่าที่ส.ส.ทุกพรรคการเมือง ก็เพราะต้องการให้เห็นผลลัพธ์ ว่า หากมีมติตัดสิทธิ์ทางการเมืองกลุ่มคนเหล่านี้ อาจทำให้กระทบกับภาพรวมของการเลือกตั้งทั้งประเทศ เพราะ จากการตรวจสอบในขณะนี้พบว่า เฉลี่ย100 คน มีส.ส.เข้าข่ายถือหุ้นในบริษัทสื่อเช่นเดียวกันถึง 10 คน

"ณัฏฐพล" ลั่นพร้อมรับผิดหากถือหุ้นสื่อจริง  แนะธนาธรฟ้องเอง

ด้านนายณัฏฐพล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "จากกรณีที่คุณธนาธร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก พาดพิงผมในเรื่อง บริษัททำสื่อฯ ขออธิบายหลักการกฏหมายแบบสั้นๆ ง่ายๆ ครับว่า หากผมถือหุ้นในบริษัทสื่อฯ หรือจะผิดพลาดที่ไม่ได้ขาย หรือโอนในกฏเกณฑ์ของ กกต.ตามกรอบกฏหมาย  ผมก็หลุดจากการเป็น ส.ส.ครับ ง่ายๆ ตรงๆ ไม่มีอ้อมไปมาครับ และก็จะพร้อมรับคำตัดสินแบบลูกผู้ชาย"

นายณัฏฐพล ระบุว่า มีธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษา และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสื่อมวลชนสามารถตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตามของดการตอบคำถามในช่วงน้ เพราะสัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลามหามงคลของประเทศชาติ

โดยทิ้งท้ายว่า นายธนาธร ระบุว่า "จะสงวนสิทธิ์ในการฟ้อง" ตนเองก็อยากจะให้มาฟ้องด้วยตัวเอง อย่าส่งตัวแทนมา

"สดศรี" หวั่นปมหุ้นสื่อธนาธร ถูกมือที่ 3 ปลุกระดม 

อดีตกกต. นางสดศรี สัตยธรรม อดีต กกต. กล่าวถึงการแจ้งข้อกล่าวหาในคดีถือหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่า

"ที่น่าเป็นห่วงไม่ใช่เรื่องคดีความแต่เป็นเรื่องกลุ่มแฟนคลับของนายธนาธรที่มีความนิยมอยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนและวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก โดยต้องดูว่าคนกลุ่มนี้จะยอมรับมติของ กกต. การตัดสินมากน้อยเพียงใด หากยอมรับก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ยอมรับขึ้นมา ประกอบกับมีกลุ่มมือที่ 3 ออกมาปลุกปั่น หรือใส่ไฟในกรณีนายธนาธร เรื่องก็จะไม่จบ และเสี่ยงที่จะเกิดเหตุวุ่นวายบานปลายได้

นางสดศรี ระบุว่าหากสถานการณ์บานปลาย ก็อาจทำให้ทหารออกมาเคลื่อนไหว ควบคุมสถานการณ์ของประเทศอีกครั้ง ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หนุนนายธนาธรจะยอมรับการตัดสินและมติของ กกต.หรือไม่อย่างไร ไม่เช่นนั้น ประชาธิปไตยของประเทศไทยก็จะยังทอดยาวออกไป ไม่ได้ประชาธิปไตยสักที

 "ผู้กองปูเค็ม" เทียบสมัครสมาชิก "อนาคตใหม่" ไม่ต่างกับ "จีบสาว" 

ผู้กองปูเค็ม หรือ ร้อยเอกทรงกลด ชื่นชูผล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ตื่นมาไล์ฟเฟซบุ๊กตอนตี 3 ใช้ชื่อตอนว่า "เหมือนจีบสาว" เล่าว่าเมื่อวานนี้ ส่งหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทางไปรษณีย์แล้ว และส่งสำเนาไปให้กกต.พิษณุโลก ด้วย นับจากนี้จะเป็นหน้าที่ของกกต.ที่จะแก้ไขฐานข้อมูล นำชื่อตนออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

ผู้กองปูเค็ม เล่าว่า วานนี้ไปกรอกแบบฟอร์มสมัครสมาชิกที่พรรคอนาคตใหม่ สาขาพิษณุโลก รอบ2 ส่วนรอบแรกที่ไม่ได้ชำระค่าสมัครชิก เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทวง ถ้าทวงก็จ่ายได้เพราะแค่ร้อยเดียว แต่ถ้าจ่ายรายปี 1,000 บาท ก็อาจต้องคิดสักหน่อย เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีเงิน

ผู้กองปูเค็ม อธิบายว่า การสมัครสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ตอนนี้ ก็เหมือนกับตอน "จีบสาว" ที่จะต้องแสดงตัวตน แสดงความจริงใจ ส่วนสาวจะรับได้ไหมก็อีกเรื่องหนึ่ง

"ธนาธร" ยันไม่ได้แพ้แล้วพาล ปมเรียกร้องให้เลือกตั้งใหม่เชต 1 นครปฐม