"ผู้กองปูเค็ม" ร้อง กกต.ตรวจสอบ 32 ผู้สมัครส.ส.ใน 6 พรรคการเมือง ถือครองหุ้นสื่อเข้าข่ายขาดคุณสมบัติการลงสมัคร ขัดรัฐธรรมนูญ ชี้หากผิดจริงมีผลทำคะแนน 6 พรรคฝ่าย"เพื่อไทย"หายไป อาจกระทบทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

ร้อยเอกทรงกลด ชื่นชูผล หรือ ผู้กองปูเค็ม ยื่นหนังสือถึงกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อขอให้ถอดถอนสมาชิกพรรคการเมือง 6 พรรค  เนื่องจากยังถือครองหุ้น บริษัทที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจ ด้านสื่อสารมวลชน แม้ปัจจุบันบางแห่งเป็นบริษัทร้าง แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกกิจการ กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ที่ห้ามไม่ให้บุคคลที่เป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อกิจการใดๆ สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จึงขอให้ กกต. ตรวจสอบกับกระทรวงพาณิชย์

สำหรับผู้สมัครที่ร้อยเอกยทรงกลด ยื่นถอดถอน เป็นผู้สมัครจาก 6 พรรคการเมือง รวม 32 คน แบ่งเป็น

พรรคเพื่อไทย 10 คน อาทิ นางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยาของนายขวัญชัย สาราคำ แกนนำคนเสื้อแดง ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 4  นายนพดล ปัทมะ ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 5

พรรคอนาคตใหม่ 7 คน อาทิ นางสาวนรีรัตน์ สุขวรรณรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.สระบุรี เขต 2  นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ

พรรคเสรีรวมไทย 6 คน อาทิ นายคมกฤษณ์ จ่าทองคำ ผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ เขต 1

พรรคเพื่อชาติ 5 คน อาทิ นายดามพ์ เผด็จดัสกร ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1  นายเบาหวิว มณีแจ่ม ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เขต 5

พรรคพลังปวงชนไทย 2 คน อาทิ นายนุกูล คงชุบ ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 7 นายอนุชา สิงหะดี ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 4

และพรรคประชาชาติ 2 คน ได้แก่ นายธนวัฒน์ ศรีสุข ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 18 นายธนกฤษ อธิรชานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 6

ร้อยเอกทรงกลด ยังกล่าวว่า  หากกกต.เห็นว่าหากผู้สมัครทั้ง 6 พรรคที่ร่วมกันลงปฏิญญาจัดตั้งรัฐบาล ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้สมัคร ก็จะมีผลให้คะแนนของทั้ง 6 พรรคหายไป 286,805 คะแนน ซึ่งจะทำให้จำนวน ส.ส.พึงมีหายไป 9 คน และส่งผลให้คะแนนของทั้ง 6 พรรค ไม่ใช่เสียงข้างมากที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ และอาจถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี

กกต.ปัดดองเรื่องสอบหุ้น"ธนาธร" ยันจะเร่งทำให้เสร็จ

ขณะเดียวกัน สำนักงาน กกต.ออกคำชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่าการดำเนินการตรวจสอบการถือครองหุ้นสื่อมวลชนของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นไปด้วยความล่าช้า กล่าวหาว่ามีการดองเรื่องนั้น  ขอชี้แจงว่ามิได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการตรวจสอบ สืบสวนหรือไต่สวน สอบหาข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง

พร้อมทั้งต้องเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ชี้แจงแสดงพยานหลักฐานเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ในขณะนี้สำนักงานฯ ได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อสั่งให้คณะกรรมการสืบสวนหรือไต่สวนดำเนินการตามระเบียบอำนาจหน้าที่ โดยจะตรวจสอบให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

"ธีระชัย"โพสต์เหตุผล"ไพศาล" ปกป้อง "ธนาธร"

ขณะที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

มีคนตั้งคำถามว่า ทำไมคุณไพศาล พืชมงคล (กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ถึงปกป้องธนาธรมากจัง?

ต้องเริ่มต้นว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคเดียวที่นำเสนอนโยบายแบบแหวกแนว (ดูรูป) เช่นกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ให้ประชาชนตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ทลายอำนาจผูกขาดนายทุนใหญ่ และปฏิรูปกองทัพให้ได้ผลจริง

ผมคิดว่าน่าเสียดายที่พรรคนี้มีธนาธรที่มีจุดสีเทาเรื่องหุ้นสื่อ มีปิยบุตรที่วิจารณ์สถาบัน และมีข้อด้อยอีกหลายอย่างที่ผมไม่เห็นด้วย จึงน่าเสียดายที่จุดอ่อนเหล่านี้ ไปบดบังนโยบายแหวกแนวที่ดี

เมื่อมีรัฐบาลใหม่โดยมีพรรคอนาคตใหม่เป็นฝ่ายค้าน ผมหวังว่าจะมีคนหยิบข้อเสนอดีๆ ของพรรคนี้ขึ้นมาดำเนินการ ผมอยากให้แยกเรื่องของตัวบุคคลออกไปจากเรื่องนโยบาย

มาถึงวันนี้ ก็คงจะรู้และเข้าใจกันบ้างแล้วว่า

- คนเขาเลือกพรรคเพราะชอบนโยบาย แต่ไม่ชอบที่ธนาธรและปิยบุตรแสดงออก

- คนเขาอยากให้โอกาส แต่ธนาธรต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์เรื่องหุ้นสื่อได้หมดจด

- คนเขาเข้าใจว่ากลัวกระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรม แต่ไม่ชอบการชักศึกเข้าบ้าน

ผมเองเป็นคนอายุมาก จึงพอจะเข้าใจว่าคนอย่างคุณไพศาลนั้น อยากให้สังคมกลับมาปรองดอง และคงจะพยายามให้ข้อคิดแก่ผู้อ่าน

เพราะผู้อื่นที่หวือหวาไปกับเรื่องนี้ แบบเก็บอารมณ์ไม่อยู่ มีระดับผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อย

"ผู้กองปูเค็ม" ร้อง กกต.ถอดถอน 32 ผู้สมัคร จาก 6 พรรคถือหุ้น