ยังคงมีผู้ลงชื่อถอดถอนคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ทั้ง 7 คนอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขล่าสุดบนเว็บไซต์ Change.org มากกว่า 4 แสน 4 หมื่นคนแล้ว ขณะที่กกต. ยืนยันว่า การทำงานทุกอย่างโปร่งใส เทียงธรรม พร้อมอธิบายสาเหตุที่ยังไม่สามารถเปิดเผยผลการเลือกตั้งและการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อได้

นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังการเลือกตั้งที่ค่อนข้างมีปัญหา ยืนยันว่า การทำหน้าที่ของกกต. เป็นไปอย่างโปร่งใส เที่ยงธรรม ไม่อิงกับพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง แต่สาเหตุที่ยังไม่สามารถเปิดเผยผลการเลือกตั้งและการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ เนื่องจากมีการร้องเรียนเกือบ 300 เรื่อง

อีกทั้งผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด ทั่วประเทศ ก็ถูกร้องเรียนว่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้งถึง 66 เขต ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาการให้ใบส้ม หรือ การระงับสิทธิ์การสมัคร ส.ส.ชั่วคราว เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งตรงนี้จะมีผลต่อการคำนวณตัวเลข

พร้อมยืนยันการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อมีวิธีเดียว คือ ยึดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และกฎหมายลูก ส.ส. มาตรา 128 และมาตรา 129 ส่วนการตีความกฎหมายที่แตกต่างกันนั้น กกต.ยังไม่มีความคิดที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

นายปกรณ์ ยืนยัน กรรมการ กกต.ไม่ได้ลอยตัวแล้วโยนปัญหาให้กับสำนักงาน กกต. แต่กรรมการทำหน้าที่เพียงกำหนดนโยบายเท่านั้น ส่วนผู้ที่เห็นว่า กกต.ไม่เป็นธรรมให้ร้องเรียนมายัง กกต.ได้

ขณะที่มีรายงานจากฝ่ายเจ้าหน้าที่กฎหมาย กกต. ว่าขณะนี้มีความชัดเจนในชั้นของ กกต.ที่จะยึดวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อตามที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้เคยระบุไว้ เพราะแนวทางนี้ฝ่าย กกต.เป็นผู้นำเสนอในชั้นการพิจารณากฎหมาย และเป็นเกณฑ์ที่เป็ฯไปตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญมากที่สุด ซึ่ง กกต.ทั้ง 7 คนเมื่อเข้ามารับตำแหน่งจึงจะต้องใช้เวลาพิจารณาอย่างรอบคอบ เรพาะการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อถูกโยงไปเป็นประเด็นทางการเมือง แต่ กกต.ก็ยึดหลักความถูกต้องในกฎหมาย คงไม่สามารถนำเรื่องสู่ศาลรัฐธรรมนูญได้ เพราะไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างองค็์กร และเชื่อว่าคณะกรรมการคงจะประกาศว่าจะยึดสูตรดังกล่าวในไม่ช้านี้เพื่อให้สังคมเกิดความชัดเจนขึ้น หากพรรคการเมืองรู้สึกเสียประโยชน์ก็เป็นเรื่องทีพรรคการเมืองอาจจะร้องต่อศาลเอง

กกต.แจงเผยผลเลือกตั้งไม่ได้ เพราะมีเรื่องร้องเรียนเพียบ