กกต. ถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงการทำหน้าที่ และปัญหาที่เกิดขึ้นมากมายระหว่างจัดการเลือกตั้ง รวมไปถึงการสร้างข่าวปลอมบนโซเชียลมีเดีย จนต้องมีการชี้แจงถึง 7 ข้อผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนประเด็นร้อนเรื่องบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านิวซีแลนด์ 1,500 ใบ กกต. ระบุ ไม่ใช่บัตรเสีย แต่เป็นบัตรที่นำมานับคะแนนไม่ได้

วานนี้ (26 มี.ค.) ที่ประชุม กกต. มีมติให้บัตรเลือกตั้งล่วงหน้า นอกราชอาณาจักร จากนิวซีแลนด์ จำนวน 1,542 ใบ เป็นบัตรที่นำมานับคะแนนไม่ได้ เพราะ บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในแต่ละเขตเลือกตั้ง จะถูกนำมานับคะแนน ณ หน่วยเลือกตั้งกลางนอกเขต ซึ่งบัตรเลือกตั้งของนิวซีแลนด์ มาถึงล่าช้า การนับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วและได้มีการประกาศผลการนับคะแนนแล้วด้วย จึงทำให้ไม่สามารถนำบัตรมานับคะแนนได้ อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กกต. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานผลให้ กกต.พิจารณาภายใน 7 วัน 

สังคมก็ตั้งคำถามไปยัง "กระทรวงการต่างประเทศ" ผู้ที่ต้องไปรับบัตรเลือกตั้งที่สนามบิน ว่าเหตุใดถึงไปรับล่าช้า

ซึ่งนางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า บัตรเลือกตั้งนิวซีแลนด์มาทางถุงเมล์พิเศษ กระทรวงฯต้องเตรียมเอกสารทางราชการเพื่อใช้ประกอบในการรับถุงเมลล์ทางการทูต ทำให้ต้องไปรับในวันที่ 24 มีนาคม แทนที่จะเป็นวันที่ 23 มีนาคม

ก่อนหน้านี้ การบินไทยได้ชี้แจงแล้วว่า บัตรเลือกตั้งนิวซีแลนด์ มาถึงคลังสินค้าการบินไทย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่เวลา 20.50 น.ของวันที่ วันที่ 23 มีนาคม ซึ่งได้แจ้งโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ มารับได้ในเวลา 22.00 - 22.30 น. แต่เจ้าหน้าที่ แจ้งว่าไม่สะดวก จะมารับเช้าวันที่ 24 มี.ค. แต่ปรากฎว่า มารับในเวลา 19.30 น. วันที่ 24 มีนาคม

สารพัดปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ สำนักงาน กกต. ต้องชี้แจงประเด็นข้อสงสัยที่มีการตั้งข้อสังเกตในโซเชียลมีเดีย รวม 7 กรณี ได้แก่

1.กรณีปลด 2 กกต.สลับรถขนบัตร ว่าไม่เป็นความจริง และได้แจ้งความดำเนินคดีหาตัวผู้กระทำผิดแล้ว

2.กรณีภาพการแกะหีบนำบัตรออกมานั่งนับที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพชรบูรณ์ เป็นการนับ หลังจากนับคะแนนเสร็จแล้ว

3.กรณีทหารชะโงกดูเพื่อนลงคะแนน ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว

4.กรณีพบเอกสาร ป้ายปิดซองใส่บัตรเลือกตั้ง ที่ จ.ชุมพร ถูกนำไปทิ้งถังขยะ เป็นวัสดุอุปกรณ์เหลือใช้ ซึ่งได้สั่งการให้ กกต. จ.ชุมพร ตักเตือนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แล้ว

5.กรณีบัตรลงคะแนนมากกว่าผู้มาใช้สิทธิ เป็นข้อมูลที่อยู่ระหว่างการรายงานผล และระบบรายงานผลช่วงดังกล่าวขัดข้องทางเทคนิค แต่ได้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว

6.กรณีบัตรเลือกตั้งสีชมพู ที่มีชื่อพรรคพลังประชารัฐเพียงพรรคเดียว ไม่ได้เป็นบัตรที่ กกต. พิมพ์ขึ้น หากพบมีการผลิต หรือตัดต่อ จะดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำต่อไป

และ 7.กรณีนับบัตรเสียเป็นบัตรดี เมื่อมีผู้ทักท้วง เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยนับคะแนนได้ประชุม หารือและวินิจฉัยให้เป็นบัตรเสีย เป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบการเข้าโจมตีระบบรายงานผลคะแนนของกกต. เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ระบบล่ม 3 ครั้ง โดยมีต้นทางจากในและนอกประเทศ เป็นกลุ่มเดิมๆ แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใดหรือไม่ เนื่องจากไม่ต้องการกล่าวหาลอยๆ นอกจากนี้ได้ดำเนินคดีกับผู้ที่แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งอันเป็นเท็จไปแล้วกว่า 20 ราย 

ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มอบหมายให้นายทะเบียนพรรคยื่นหนังสือต่อ กกต. ขอให้เปิดเผยข้อมูลตัวเลขผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง จำนวนบัตรเลือกตั้งที่แต่ละหน่วยได้รับ จำนวนบัตรเสีย และคะแนนผู้สมัครแต่ละคน เป็นรายหน่วย เนื่องจากยังพบว่า การพิจารณาบัตรดี บัตรเสีย ไม่มีมาตรฐานเดียว มีการเอื้อประโยชน์ให้บางพรรค ทำให้บัตรที่เลือกพรรคอนาคตใหม่กลายเป็นบัตรเสียมากเป็นพิเศษ ซึ่งหาก กกต. ไม่ทำตามข้อเรียกร้อง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงลงชื่อถอดถอนกกต.ออกจากตำแหน่ง ผ่านการตั้งแคมเปญในเว็บไซต์ ว่า "ไม่ได้ผล" การล่ารายชื่อที่ถูกต้อง มีผลทางกฎหมาย คือ ผู้ลงชื่อต้องลงนามในแบบฟอร์มที่กฎหมายกำหนดด้วยตนเอง พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนที่รับรองสำเนาถูกต้อง ซึ่งเพียง 2 หมื่นชื่อ ก็ดำเนินกระบวนการไล่ กกต.ออกได้แล้วครับ

ล่าสุดตรวจสอบในเว็บ chang.org พบว่ามีคนลงชื่อถอดถอน กกต. แล้วกว่า 770,000 คน

กกต. แจง 7 ข้อสงสัยโซเชียล-ดราม่าเลือกตั้ง ชี้บัตรนิวซีแลนด์ไม่ใช่บัตรเสีย