ทายาทปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบสาเหตุการตายของช้าง ของปางช้างแม่สา ที่ตายถึง 7 เชือก ในปีเดียว เชื่อ สาเหตุ อาหารและน้ำ

นาง อัญชลี กัลมาพิจิตร บุญณราช นักอนุรักษ์ช้าง และ ทายาทเจ้าของปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เข้าพบ นายสัตวแพทย์ ทวีโภค อังควนิช หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ ที่โรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง

เพื่อขอข้อมูลการตาย ของช้างภายในปางช้างแม่สา จำนวน 7 เชือก ซึ่งเกิดขึ้นภายในปี 2561 โดย เชื่อว่า เป็นการตายที่ผิดปกติ เพราะไม่เคยมีปรากฏมาก่อนโดย ตั้งข้อสังเกต ว่า สาเหตุ อาจมาจาก อาหารและน้ำดื่ม

พร้อมทั้ง เรียกร้องให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ที่เป็นหน่วยงานต้นสังกัดช้างเลี้ยง เข้ามาตรวจสอบการบริหารจัดการอาหารและน้ำดื่มของปางช้าง รวมทั้ง ผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการเลี้ยงช้างทั้งหมด หากมีหลักฐาน ยืนยันว่า สัตวแพทย์ หรือ ผู้ดูแลช้าง มีส่วนทำให้ช้างล้มแบบผิดธรรมชาติ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว ได้พยายามติดต่อไปยัง นายสัตวแพทย์ ทวีโภค เพื่อขอข้อมูลสาเหตุการตายของช้างจากปางช้างแม่สา แต่ไม่สามารถติดต่อได้

ด้าน ที่ปรึกษาฝ่ายบริหารปางช้างแม่สา ชี้แจงว่า กรณีช้างตาย เป็นเรื่องปกติของสัตว์ ที่จะต้องมีการเจ็บป่วยล้มตาย เช่นเดียวกับสัตว์ชนิดอื่นๆ และ ที่ปางช้างแม่สา ก็ไม่ได้มีแต่ช้างตาย แต่ยังมีช้างที่เกิดใหม่มาทดแทนเรื่อยๆ 

ส่วน การที่ นางอัญชลี ตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีสาเหตุมาจากคุณภาพอาหาร และน้ำที่ช้างดื่ม นั้น ยืนยันว่า ปางช้างแม่สา มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญ ทั้ง สัตวแพทย์ สัตวบาล ควาญช้าง ที่ให้การดูแลช้างทุกเชือกอย่างมีมาตรฐานมาตลอดหลายสิบปีของปางช้างแม่สา รวมทั้งมีการตรวจสุขภาพช้างเป็นประจำ และปัจจุบันช้างทุกเชือก มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์

ทั้งนี้ เชื่อว่า การเรียกร้องครั้งนี้ น่าจะมีความเชื่อมโยงกับความขัดแย้ง เรื่อง มรดกของ นาย ชูชาติ กัลมาพิจิตร หรือ พ่อเลี้ยงแอ๊ด ผู้ก่อตั้ง และเจ้าของปางช้างแม่สา ที่เสียชีวิตไปแล้ว

ทายาทปางช้างแม่สาขอตรวจสอบช้างตาย 7 เชือกในปีเดียว เชื่อมาจากอาหาร-น้ำ