หลายพรรคการเมืองตระเวนลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย โดย"พลังประชารัฐ"หาเสียงจ.อุบลราชธานี เปิดคลิป"ลุงตู่"ประกาศพร้อมนำความปรองดองกลับมาคืนสู่ประเทศ พร้อมเป็นผู้นำเปลี่ยนแปลงประเทศ เดินไปข้างหน้า

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำทีมแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ปราศรัยหาเสียงที่สนามหญ้า ศาลากลางหลังเก่า ทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี 

ระหว่างการปราศรัยได้มีการเปิดคลิปวิดีโอของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ที่ฝากมาถึงพี่น้องชาว จ.อุบลราชธานี โดย พลเอก ประยุทธ์พูดทักทายเป็นภาษาอีสาน ระบุว่า "คิดฮอดหลายๆเด้อ ฮักคักๆ" ผมเป็นคนอีสานอยู่แล้ว บ้านเกิดอยู่โคราช แม่ผมเป็นชัยภูมิ ก็ใกล้ๆอุบลนี่แหละ เราพี่น้องกันทั้งสิ้น 

สิ่งสำคัญเร่งด่วนที่ผมต้องทำให้สำเร็จ คือการแก้ไขปัญหาที่หลงเหลืออยู่ ตลอดจนวางอนาคตให้มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนต่อไป สิ่งแรกที่ต้องนำกลับคืนมาให้ได้ก็คือ ความรักความสามัคคี ความปรองดอง กลับคืนสู่สังคมไทยประเทศไทย ผมขอให้คำมั่น และขอให้เชื่อใจในตัวผม ว่าจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง ผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด

ผมพร้อมที่จะเป็นผู้นำ ในการเปลี่ยนแปลง ในการเดินหน้าประเทศ 

ขณะที่ นายสนธิรัตน์ กล่าวแสดงความมั่นใจว่า วันที่ 24 มี.ค.นี้จะได้ ส.ส. ยกจังหวัดอุบลราชธานีทั้ง 10 เขตแน่นอน เพราะทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และอบอุ่น พร้อมขอชาวอุบล ร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศ ไม่กลับไปสู่วังวนเดิม ที่มีการแบ่งฝ่าย แบ่งสีเสื้อ ยืนยัน หลัง เลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ จะไม่ทำให้เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา แต่จะมาอาสาเข้ามาทำงาน ไม่ให้มีการทะเลาะกัน 

หลังจากปราศรัย เพจเฟซบุ๊กของพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการโพสต์ภาพนักการเมืองบนเวทีถ่ายกับประชาชนที่มาเชียร์และฟังปราศรัย ที่เวที จ.อุบลราชธานี แต่กลับโดนชาวโซเชียลจับโป๊ะว่า มีการตัดต่อภาพคนซ้ำกัน เพื่อทำให้เหมือนมีคนมาฟังการปราศรัยเยอะหรือไม่ จนโดนแซวสนั่นว่าฝาแฝดหรือเปล่าหลังจากโซเชียลพากันแชร์เรื่องนี้ ทางเพจเฟซบุ๊กของพรรคพลังประชารัฐได้ลบภาพดังกล่าวออกไปเรียบร้อยแล้ว

ด้านนายธนกิจ จิตอารีย์รัตน์ คณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ทีมกฎหมายและทีมสารสนเทศของพรรคเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน และข้อมูลที่มีบุคคลหรือพรรคการเมืองอื่นใส่ร้ายป้ายสีพรรคว่า สืบทอดเผด็จการ โดยจูงใจให้ประชาชนเข้าใจผิด และโจมตีให้เสียคะแนนนิยม ทั้งที่พรรคพลังประชารัฐเป็นสถาบันทางการเมืองที่จัดตั้งตามกติกาที่รัฐธรรมนูญ 

เบื้องต้นทีมงานรวบรวมข้อมูลไว้ได้พอสมควร คาดว่าจะนำพยานหลักฐานยื่นต่อกกต.หลังการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ และบางกรณีพบความผิดที่เข้าข่ายนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองได้ด้วย 

ข้ามจากพรรคพลังประชารัฐ มาดูความเคลื่อนไหวจากพรรคเพื่อไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ช่วยผู้สมัครส.ส. พรรคเพื่อไทย หาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย 

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวปราศรัยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนต้องเลือกอย่างมียุทธศาสตร์ ถ้าประชาชนไม่ต้องการให้ พลเอกประยุทธ์ มาเป็นนายกฯต่อ ต้องเลือกเพื่อไทยเท่านั้น เพราะมีเพียงพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวที่มีศักยภาพจะได้ส.ส.มากพอที่จะต่อสู้กับ ส.ว.250 คน 

จึงขอให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย เพื่อไล่ส่งพลเอกประยุทธ์ กลับดาวอังคาร ดังคำที่ "ลุงตู่" เคยกล่าวกับพี่น้องเกษตรกร ถ้าต้องการราคาผลผลิตทางเกษตรราคาดี ให้ไปขายที่ดาวอังคาร 

จากอีสาน ลงไปภาคใต้ ที่จ.ตรังบ้านเกิดของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค พร้อมนายชวน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่จ.ตรัง 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคมีนโยบายประกันราคายาง 60 บาท และปาล์ม กิโลกรัมละ 4 บาท แต่หลังจากพรรคประกาศนโยบายออกมา ปรากฏว่าพรรคพลังประชารัฐมาลอกและเกทับนโยบายของพรรคเรา ทั้งที่ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาไม่ทำ แต่พอถึงเวลาเลือกตั้งมาประกาศนโยบายหาเสียง ซึ่งประชาธิปัตย์คิดนโยบายมานาน และสามารถทำได้จริง ไม่ใช่คิดกันเล่นๆในช่วงเลือกตั้งและไม่ใช่นโยบายที่จะมาเกทับตัวเลขกัน 

ขณะที่นายชวน ยอมรับว่า รัฐบาลทหารที่เข้ามาบริหารประเทศมีความหวังดี แต่ไม่เข้าใจปัญหาของบ้านเมือง ยิ่งทำคนยิ่งจน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จึงขอให้ประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปแก้ปัญหา 

ขณะที่นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ขอเรียกร้องไปยังกกต.ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่มีการซื้อเสียงรุนแรงที่สุด ซื้อเสียงด้วยเงินจำนวนสูงที่สุด แทบทุกเขต ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากผู้สมัครของพรรคว่า มีการการซื้อเสียงหัวละ 1,000 บาท และซื้อเสียงกันอย่างโจ๋งครึ่ม โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงเรียกร้องให้ กกต.เร่งส่งหน่วยสืบสวน สอบสวน เข้าไประงับการซื้อเสียง 

ส่วนในวันที่ 22 มีนาคมนี้ เวลา 16.00-20.30 น. พรรคจะปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายที่ลานคนเมือง กรุงเทพมหานคร นำโดยนายอภิสิทธิ์ ไฮไลต์สำคัญ คือ นายอภิสิทธิ์จะมีการเปิดใจ พร้อมประกาศจุดยืนอีกครั้ง 

จากใต้ขึ้นเหนือไปจ.เชียงใหม่ นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมผู้สมัครส.ส.เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบายของพรรค ระบุว่า นโยบายสำคัญที่สุดของพรรค คือ"พาคนแดนไกลกลับบ้าน เพื่อเข้าสู่กระบวนการเจรจายุติความขัดแย้งของคนในชาติ" คือพานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับบ้าน เพื่อยุติความขัดแย้ง 

เพราะที่ผ่านมาคนไทยค่อนประเทศยังเชื่อว่านายทักษิณนั้นถูกกล่าวหา ดูได้จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคได้รับเลือกตั้งมาโดยตลอด แสดงว่า ทุกคนเชื่อว่านายทักษิณ ไม่มีความผิด และเป็นผู้บริสุทธิ์ พรรคเพื่อชาติจึงอาสาพานายทักษิณ กลับบ้านเพื่อกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมที่เป็นที่ยอมรับในสังคมโลก 

วานนี้ พรรคเพื่อชาติ นำโดยนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรค และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ได้จัดปราศรัยใหญ่ ที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่

นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้พลเอก ประยุทธ์ยอมเปลี่ยนบุคลิกภาพ จาก"ลุงตู่"ผู้เกรี้ยวกราดกลายเป็น"ลุงตู่"ผู้ใจดี เพราะต้องการเป็นนายกฯต่อ แต่เมื่อเป็นนายกฯ แล้วส.ว.เข้าไปคุ้มครองไม่ได้ และกฎหมายไม่ได้ระบุว่า กี่วันจึงจะยื่นอภิปรายได้ 

ซึ่งวันแรก ทันทีที่พลเอก ประยุทธ์แถลงนโยบาย เมื่อมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอก ประยุทธ์ก็จะพังทันที เพราะเสียงส.ส.มีไม่ถึง 251 เสียง ตนจึงต้องการให้พลเอกประยุทธ์กลับบ้าน แต่ถ้าไม่กลับบ้านก็อาจจะเครียดตายได้ 

ขณะที่นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ โพสต์เฟซบุ๊ก ประเมินว่า นายกฯหลังเลือกตั้งมีโอกาสแค่ 2 คนเท่านั้น คือ คุณหญิงสุดารัตน์ หรือ นายอภิสิทธิ์

เพราะขณะนี้ประชาชนต้องการเปลี่ยนรัฐบาลสูงมาก ถึงขนาดได้ข้อสรุปว่า"เลือกใครก็ได้ที่ไม่ใช่ประยุทธ์" อีกทั้งพลเอก ประยุทธ์ ยังเสียคะแนนจากชนชั้นกลาง(ล่าง)ไปจนถึงชนชั้นกลาง(บน)สาเหตุจากปัญหาเศรษฐกิจ 

ทำให้พรรคการเมืองที่จะได้รับเลือกตั้งเกิน 100 ที่นั่ง มีเพียงสองพรรคคือ เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์หรือนายอภิสิทธิ์จะไม่ได้เป็นนายกฯ มีแค่สามกรณี คือ 1.การเลือกตั้งเป็นโมฆะ 2.พลเอก ประยุทธ์ ใช้อำนาจม.44 สั่งยุบสภาสาเหตุทั้งสองสภาโหวตเลือกนายกฯไม่ได้ และ3.เกิดสถานการณ์ความวุ่นวายหลังการเลือกตั้ง และมีการยึดอำนาจอีกครั้ง

พปชร.หาเสียงจ.อุบลฯเปิดคลิป"ลุงตู่" ลั่นนำความปรองดองคืนสู่สังคมไทย