ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร สะท้อนมุมองจากคดีล่าเสือดำของนายเปรมชัย ส่งผลให้ประชาชนตื่นตัวในการอนุรักษ์สัตว์ป่ามากขึ้น ส่วนนายเปรมชัยก็ถูกสังคมลงโทษ ซึ่งหนักหนากว่าโทษทางกฏหมาย

นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ถอดบทเรียนจากคดีล่าเสือดำ ของนายเปรมชัยและพวก ว่า คดีดังกล่าว ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่หลวง ของทรัพยากรทางธรรมชาติของไทย ที่ต้องสูญเสีย เสือดำไป ซึ่งเป็นสัตว์ที่ควรอนุรักษณ์ไว้ในผืนป่าของไทย

แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนคนไทยมีความตื่นตัว เรื่องของการอนุรักษณ์สัตว์ป่ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแสดงออกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในการทวงคืนความยุติธรรมให้กับเสือดำที่ตายไป มีประชาชนหลายกลุ่ม ออกมาคัดค้านการกระทำของนายบเปรมชัยและพวก แม้ผู้ถูกกล่าวหา จะเป็นบุคคลที่มีฐานะ และมีชื่อเสียงในสังคมไทย แสดงให้เห็นถึงความกล้าของสังคมไทยในการต่อสู้ เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่า

ส่วนตัวนายเปรมชัย ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ระบุว่า ที่ผ่านมา ถูกสังคมลงโทษด้วยการกดดันจากหลายรูปแบบ ซึ่งถือว่า เป็นโทษทางสังคมที่รุนแรงกว่าโทษทางกฎหมาย ที่อาจจะได้รับหรือไม่ได้รับก็ได้

นอกจากนั้น จากเหตุการร์ดังกล่าว ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ยังชี้ให้เห็นว่า ทำให้คนรู้จักทุ่งใหญ่นเรศวรมากยิ่งขึ้น และทำให้คนรู้ว่า ประเทศไทยยังมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ ที่ยังมีสัตวว์ป่าอาศัยอยู่จริงๆ และที่สำคัญ ทำให้คนเห็นความสำคัญของคนที่ทำหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่ามากขึ้น

ประธานมูลนิธิสืบฯ เชื่อเปรมชัยถูกสังคมลงโทษรุนแรงกว่าโทษทางกฎหมาย