ญาติคนเจ็บที่ถูกรถปอร์เช่ชนทำให้มีหญิงสาวเสียชีวิต 1 คน อีกคนเสียลูกในท้อง ร้องตำรวจ สน.หนองค้างพลู ช่วยติดตามคดี ก่อนพบว่าคนขับที่ชนแล้วหนียังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา

ภาพเหตุการณ์ ขณะที่คนขับรถปอร์เช่คลานออกมาจากรถ ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ในอาการมึนเมา จนเป็นเหตุให้ขับรถชนรถจักรยานยนต์ 2 คันที่ขับขี่บนฟุตบาท ทำให้มีหญิงเสียชีวิต 1 ศพ ส่วนหญิงอีกคนตั้งครรภ์ 3 เดือนบาดเจ็บสาหัส  ทำให้เด็กในท้องเสียชีวิต

ต่อมา น.ส.ณัฐธินี เลื่อนรุ่ง พี่สาว น.ส.กิตติยา เที่ยงธรรม อายุ 22 ปี ซึ่งถูกรถปอร์เช่ รุ่นเคย์แมน เอส ราคาเกือบ 10 ล้านชน จนลูกในท้องเสียชีวิตและตัวเองต้องถูกตัดแขนตัดขา ส่วน น.ส.มีนารัตน์ ฉิมน้อย อายุ22 ปี เพื่อนสาวเสียชีวิต เดินทางเข้าพบ ตำรวจสน.หนองค้างพลู  เพื่อขอทราบความคืบหน้าคดี

น.ส.ณัฐธินี กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อคืนวันที่15 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่น้องสาวขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านพักเพื่อออกไปรับ น.ส.มีนารัตน์ ซึ่งทำงานเป็นพีอาร์อยู่ที่ร้านอาหาร ได้ขี่รถย้อนศรบนฟุตบาทมุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี เพื่อเข้าซอยลัดในซอยเพชรเกษม110 ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่ปรากฎว่ามีรถปอร์เช่ ขับมาด้วยความเร็วสูงข้ามสะพานข้ามคลองย่อย แล้วเหินเสียหลักขึ้นฟุตบาทมาชนรถจักรยานยนต์ของน้องสาวตนอย่างแรง ส่วนรถปอร์เช่คันที่ก่อเหตุยังเสียหลักไปชนรถซาเล้งและรถตู้ได้รับความเสียหายอีก1คัน

หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีถ่ายคลิปและไลฟ์สดเหตุการณ์ เป็นภาพที่คนขับรถปอร์เช่ คลานออกมาจากในรถสภาพเมา ก่อนมีรถยนต์สีดำ วนมารับขึ้นรถไปจอดดูเหตุการณ์อยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วหนีไป โดยพยานเห็นว่าคนขับรถปอร์เช่นั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนที่ร้านอาหาร ห่างจากจุดเกิดเหตุไปไม่ไกล

ตนพร้อมญาติไปขอกล้องวงจรปิดที่ร้านอาหาร ก็บอกว่าลบภาพออกไปแล้ว แต่ยังได้ภาพจากกล้องใกล้เคียง และเกรงว่าคดีนี้จะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะคูก่รณีเป็นคนมีเงิน จึงโพสต์ลงโซเชียล ก่อนทราบว่าภรรยาของคนขับรถเก๋ง ติดต่อร้อยเวรเจ้าของคดี บอกว่าจะให้เงิน5 หมื่นบาทเป็นค่าทำศพ แต่ขออย่าพูดเรื่องเมา

ด้านตำรวจเจ้าของคดี กล่าวว่า ทราบชื่อผู้ครอบครองรถคือ นายสมเกียรติ ภักดีนอก เป็นเจ้าของเต็นท์ขายรถ บาดเจ็บขาหัก2ข้าง รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากยังไม่พร้อมให้การ ซึ่งต้องรอผลตรวจเลือดจากทางโรงพยาบาลว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่ามาตรฐานหรือไม่