ชายวัย 23 ปี ตกงานไม่มีเงินใช้ ตัดสินใจวิ่งราวทรัพย์ สุดท้าย! ไม่รอดถูกจับทันควัน

วันที่ 16 มี.ค.ร.ต.อ.ชาญชัย อินนอก รอง สว.สส.สน.บางเสาธง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุลอยฟ้า ว่ามีเหตุชิงทรัพย์ โดยใช้อาวุธปืนที่ร้าน เบ๊ดรูม สปา (Bedroom Spa) ภายในโครงการเอสเวย์พลัส เลขที่ 63 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.ศุภกิจ ต่อบุญ ผกก.สนบางเสาธง พ.ต.ท.ธงชัย แก้วทา สว.สส.สน.บางเสาธง และกำลังตำรวจสายตรวจ พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน สน.บางเสาธง และตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) เมื่อไปถึงพบผู้เสียหาย นางสาวศศิประภาพร ปิงวงค์ ยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ และแจ้งว่าได้ถูกคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ได้เงินสดจำนวน 500 บาท และคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไปตามถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4

จากนั้นทางตำรวจจึงออกวิทยุสกัดจับคนร้าย กระทั่งไล่ติดตามไปจนสามารถควบคุมตัว นายปกรณ์ หรือยอด จันลา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ที่6 แขวงดองกำเม็ด อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ หลบหนีลงไปในพงหญ้าใต้ถุนร้านลาบ ริมถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ได้อย่างทุลักทุเล ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นายปกรณ์ และตรวจค้น พบของกลาง กระเป๋าสะพายยี่ห้อกุชชี่ สีน้ำตาล-เทา จำนวน 1 ใบ อาวุธมีดปลายแหลม ความยาวประมาณ 9 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม ธนบัตรฉบับ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ บัตรกดเงินธนาคารต่างๆ จำนวน 3 ใบ บัตรประชาชน 1 ใบ และใบขับขี่ 1 ใบ ตลอดจนพบอาวุธปืน บีบีกัน ที่คนร้ายทิ้งไว้ด้วยเช่นกัน ก่อนคุมตัวสอบสวนที่ สน.บางเสาธง

จากการสอบสวน นายปกรณ์ สารภาพว่า ได้ใช้อาวุธปืน บีบีกันสี ก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายจริง โดยได้โยนอาวุธปืน บีบีกันที่ใช้ก่อเหตุทิ้งไว้ในบริเวณพงหญ้าดังกล่าว สำหรับสาเหตุที่ต้องลงมือก่อเหตุนั้นมาจาก เมื่อไม่นานมานี้ถูกให้ออกจากงาน ที่เคยเป็นช่างซ่อมเครื่องยนตร์ประจำศูนย์รถยี่ห้อดัง ตกงานไม่มีเงินใช้ จึงเครียดแล้วต้องออกมาหาเงิน ด้วยวิธีดังกล่าว โดยทำเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธและพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป