กรุงเทพมหานครมีถึง 30 เขตเลือกตั้ง แต่วันนี้พรรคการเมืองใหญ่อย่างประชาธิปัตย์ และ เพื่อไทย ทั้งสองพรรคนำคณะโดยแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไปช่วยหาเสียง ปรากฏว่าใจตรงกัน เลือกลงพื้นที่บึงกุ่ม

กลายเป็นที่ฮือฮา เมื่อ 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจาก 2 พรรคการเมืองใหญ่ ที่ดูจะอยู่คนละฝ่าย บังเอิญมาเจอกันระหว่างการหาเสียงช่วยผู้สมัครของตัวเอง ในพื้นที่เขตบึงกุ่ม คันนายาว คือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บรรยากาศก็เลยดูแตกต่างจากที่แต่ละฝ่ายปราศรัยบนเวทีอย่างดุเดือด

โดยระหว่างลงพื้นที่หมู่บ้านสหกรณ์ ถนนเสรีไทย 57 นายอภิสิทธิ์ ได้นำนายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครของประชาธิปัตย์ เข้ามาทักทาย คณะหาเสียงของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ที่นำนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่โดยผู้สมัครของทั้ง 2 พรรคได้ทักทายและจับมือกัน ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม รวมถึงถ่ายรูปร่วมกัน ก่อนที่นายอภิสิทธิ์ และคุณหญิงสุดารัตน์ ได้คุยกันเล็กน้อย ก่อนจะพาผู้สมัครของพรรคเดินหาเสียงต่อ

โดยในวันนี้คณะของพรรคเพื่อไทยได้เน้นสอบถามปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และขอโอกาส จากประชาชน สนับสนุนให้มาเป็นรัฐบาล ในฐานะนักบริหารมืออาชีพ เพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา

คุณหญิงสุดารัตน์ยังได้แวะพูดคุยกับสมาชิกชมรมผู้สูงอายุหมู่บ้านสหกรณ์ ยืนยันว่าจะปรับปรุงโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ยุคใหม่ ซึ่งจะยึดหลักการที่ว่า ต้องแข็งแรงก่อนแก่ มีสุขภาพดีก่อนป่วย ยาดี หมอดี ไม่รอคิวนาน และผู้สูงอายุจะต้องสวยวันสวยคืน

ด้านพรรคประชาธิปัตย์หาเสียงด้วยการนำเสนอนโยบายเพื่อผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล จากเส้นแคราย – ลำสาลี (บึงกุ่ม) และสายสีเทา จากเส้นวัชรพล - ทองหล่อ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัดมายาวนาน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้พาผู้สมัคร มาชี้แจงเส้นทางโครงการรถไฟฟ้ากับสื่อมวลชน บริเวณสะพานลอย บนถนนเกษตร-นวมินทร์ พร้อมกล่าวว่าในซีกตะวันออกของกรุงเทพมหานครขณะนี้การจราจรสาหัสมาก ส่วนประชาชนก็มองว่าการเดินทางเข้าเมืองใช้เวลามากและเป็นภาระ ดังนั้นการเร่งรัดโครงการดังกล่าว เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาการจราจร มลพิษ และยังเป็นการเปิดเศรษฐกิจใหม่ ส่วนการลงทุนรูปแบบจะเป็นเอกชนร่วมกับภาครัฐ และมั่นใจว่าคนรุ่นใหม่จะสามารถผลักดันได้โดยไม่มีความขัดแย้ง

นายอภิสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาติจะสามารถดึงคะแนนมาที่พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ว่า เป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะโดยธรรมชาติคนเลือกพรรคไทยรักษาชาติไม่ได้ต้องการเลือกพรรคประชาธิปัตย์มากนัก จึงขอให้ประชาชนดูนโยบายและเปรียบเทียบกัน เชื่อสถานการณ์การยุบพรรคไม่น่าจะสร้างความขัดแย้งทางการเมือง