ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เชื่อผู้ก่อเหตุฆ่าฝังดินหญิง 35 ปี ในหมู่บ้านหรู ย่านทุ่งครุ คือ สามีผู้เสียชีวิต พร้อมเร่งนำผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ขออนุมัติศาลออกหมายจับรอบ 2

พลตำรวจตรีสัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เรียกประชุมร่วมฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งครุ โดยระบุว่าในขณะนี้ยังคงยืนยันได้ว่าผู้ต้องสงสัยในคดีนี้สามีผู้เสียชีวิต ที่ขณะนี้พบข้อมูลว่ามีการหลบหนีในพื้นที่ภาคตะวันออก ส่วนสาเหตุการก่อเหตุเบื้องต้นเชื่อว่ามาจากปัญหาภายในครอบครัว แต่ทางตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นใดๆทิ้ง

ซึ่งในขณะนี้ยังคงต้องรอผลการชันสูตรเอกลักษณ์บุคคลของศพที่พบ เพื่อใช้ยืนยันในสำนวน ว่าใช่ภรรยาผู้ต้องสงสัยหรือไม่ แต่ในส่วนของญาติที่ร่วมสังเกตุในวันพบศพมั่นใจว่าศพที่พบคือศพของภรรยาผู้ต้องสงสัยจริงเพราะสามารถจดจำเสื้อผ้าการแต่งกายได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ในส่วนของบาดแผลที่บริเวณด้านหลังท้ายทอยที่มีร่องรอยคล้ายถูกยิง แต่จากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบร่องรอยของการใช้อาวุธปืนภายในบ้านซึ่งต้องรอการตรวจพิสูจน์ละเอียดจากทางพิสูจน์หลักฐานตำรวจอีกครั้ง รวมถึงผลการตรวจการป่วยทางจิตเวชด้วยเช่นกัน

สำหรับสาเหตุที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงจนพบร่างหญิงวัย 35 ปี มาจากการที่ญาติผู้เสียชีวิตได้มีการแจ้งบุคคลสูญหาย หลังพบผู้เสียชีวิตล่าสุดเมื่อวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก่อนจะขาดการติดต่อไป เมื่อสอบถามสามีผู้เสียชีวิต ก็บ่ายเบี่ยงว่าผู้เสียชีวิตเดินทางไปพักที่อื่น จึงได้มีการเฝ้าสังเกตุการณ์ที่บ้านพักจนพบข้อพิรุธ เกี่ยวกับการขุดหลุมและสั่งซื้อทรายจึงมีการประสานให้ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งครุเข้าร่วมตรวจสอบ

ด้าน พันตำรวจเอกสุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทุ่งครุ ระบุว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่ออนุอนุมัติหมายจับใหม่อีกครั้ง โดยในขณะนี้ยังต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ในการยืนยันตัว ผู้เสียชีวิต เนื่องจากศพที่พบเริ่มเน่าเปื่อย ไม่สามารถยืนยันตัวผู้เสียชีวิตได้ คาดว่าน่าจะได้ผลการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ภายใน 1-2 วันนี้

ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมายังสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อติดต่อขอรับศพทำพิธีทางศาสนาโดยจะนำไปทำพิธีละหมาดที่มัสยิดชาฟีอี-มาเรียม ซอยสุขสวัสดิ์ 66 ก่อนจะนำไปทำพิธีฟังที่กูโบว์ภายในซอยประชาอุทิศ 69

โดยญาติเผยยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย และสะเทือนต่อจิตใจเป็นอย่างมาก จึงไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ ก่อนจะนำศพไปทำพิธีทางศาสนาที่กำหนดไว้