ผู้บัญชาการทหารบก โชว์ฟิตทดสอบร่างกายผ่านเกณฑ์ 100 % ยืนยัน"สตรอง"ไม่สนถูกการเมืองโจมตี ขณะที่ภายในกองทัพบกเปิดเพลง"หนักแผ่นดิน"เวอร์ชั่นอะคูสติก

เวลา 07.00 น. วานนี้ (21ก.พ.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกได้นำนายทหารระดับ 5 เสือกองทัพบก และผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองบัญชาการกองทัพบก รวมทั้งกำลังพล ทดสอบร่างกายประจำปี 2562 ครั้งที่ 1 ตามนโยบาย “ Smart Soldiers Strong Army” 

ในการทดสอบสถานีแรก ด้วยท่าดันพื้น พลเอก อภิรัชต์ ดันพื้นได้ 42 ครั้ง ผ่านเกณฑ์ 70 % ส่วนสถานีที่ 2 ในท่าลุกนั่ง หรือ ซิทอัพ พลเอก อภิรัชต์ ผ่านเกณฑ์ทดสอบ 100% ลุกนั่งได้ 71 ครั้ง สถานีที่ 3 ทดสอบด้วยการวิ่งระยะทาง 2 กิโลเมตร ด้วยการตั้งแถววิ่ง ซึ่งระหว่างการวิ่งนั้นผู้ทดสอบทั้งหมดได้ร้องเพลงมาร์ชกองทัพบก และ มาร์ชสามัคคีสี่เหล่า ไปพร้อมกันด้วย โดยใช้เวลา 10 นาทีครึ่ง 

ในขณะที่ภายในกองทัพบกยังเปิดเพลง "หนักแผ่นดิน"แต่เป็นอะคูสติกเวอร์ชั่น รวมทั้ง มาร์ชกองทัพบก และความฝันอันสูงสุด คลอตามไปด้วย โดยการวิ่งดังกล่าวมีการเดินผ่อนกำลังเพื่อให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบที่สมรรถภาพร่างกายแตกต่าง สามารถวิ่งไปพร้อมๆกันใช้เวลาทดสอบ 10.30 นาที ซึ่งถือว่าผ่านเกณฑ์ 

หลังจากการทดสอบ ผู้สื่อข่าวยังสอบถามผบ.ทบ.ว่า "เหนื่อยไหม" พลเอกอภิรัชต์ ตอบว่า "เหนื่อยอะไรดูสิ ทหารรักกันจะตาย" พร้อมชี้ไปที่กำลังพลและผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่มาร่วมทดสอบร่างกาย 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ช่วงนี้กองทัพถูกโจมตีเยอะจะชี้แจงอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า "ก็นี่ไง สตรอง" 

ขณะที่พันเอก บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมาย คสช.เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) 

เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ บุคคลที่เกี่ยวข้องต่อการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กรณีที่มีการเผยแพร่ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี กับพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.จับมือร่างกฎหมายใหม่ ทหารเกณฑ์ จาก 2 ปีเป็น 4 ปี 

ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวเป็นการบิดเบือนไม่เป็นความจริง ทำให้ประชาชนหลงเชื่อเข้าใจว่าเป็นข่าวจริง มีการส่งต่อๆ กันไป สร้างความตื่นตระหนกในสังคม 

ทั้งนี้ เว็บไซด์ดังกล่าว ทาง บก.ปอท.ตรวจพบว่ามีการนำเสนอข่าวปลอมบิดเบือนมาโดยตลอด ที่ผ่านมา ได้เสนอกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการปิดกั้นแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ 

เบื้องต้นทาง บก.ปอท.พิจารณาแล้วพบว่า ข่าวดังกล่าวเป็นความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อยากเตือนประชาชนทั่วไปด้วยว่า หากพบว่ามีข่าวปลอมแล้วยังแชร์ต่อ จะถือเข้าข่ายกระทำความผิดด้วย