เจ้าหน้าที่บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด มหาชน นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการร้านซาวด์สเตชั่นและร้านเดอะไทม์ จ.ภูเก็ต หลังพบว่าสถานประกอบการดังกล่าวมีการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงในเครือของบริษัทอาร์เอส

นายธานินท์ แก้วแกม พร้อมด้วยนายเรืองเดช รินอินทร์ ผู้จัดการแผนกปฏิบัติการ บริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย ในเครือบริษัทอาร์เอส จำกัด มหาชน พร้อมทีมข่าวช่อง 8 เดินทางเข้าพบร้อยตำรวจโทจิรัฐกาล เดียวจรัส ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต โดยนำหลักฐานเข้าร้องทุกข์มอบคดีให้กับพนักงานสอบสวน เนื่องจากพบว่าสถานประกอบการชื่อร้านซาวด์สเตชั่น และร้านเดอะไทม์ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต และอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบ ของ สภ.เมืองภูเก็ต ได้มีการละเมิดลิขสิทธิ์ นำผลงานเพลงของบริษัทอาร์เอส จำกัดมหาชนและบริษัทในเครือ ไปเผยแพร่โดยไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 

สำหรับสถานประกอบการแห่งนี้นายเรืองเดชระบุว่า ก่อนหน้าที่จะเข้าร้องทุกข์ มอบคดีให้กับทางด้านพนักงานสอบสวน บริษัทได้มีการส่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการแจ้งข้อมูลประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการ เพื่อให้ติดต่อกลับมายังบริษัท เพื่อดำเนินการขออนุญาตใช้ผลงานเพลงในเครือของบริษัทอาร์เอส ให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่สถานประกอบการทั้ง 2 แห่งยังเพิกเฉยแห่งนี้ และยังฝ่าฝืนใช้ผลงานเพลงของบริษัทอาร์เอส โดยไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่ได้มีการแจ้งเตือน 

นายธานินท์ ระบุเพิ่มเติมว่าสำหรับสถานประกอบการแห่งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ จะดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย ก็จะส่งมอบหลักฐานทางคดีต่อร้อยเวรสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับสถานประกอบการทั้ง 2 แห่ง เพื่อจะได้นำตัวผู้กระทำความผิดให้มารับโทษตามกฏหมาย ในฐานความผิดละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้า โดยยังไม่ได้ยังไม่ได้รับอนุญาตฯ 

พร้อมกับฝากประชาสัมพันธ์ไปยังสถานประกอบการในพื้นที่ ที่มีเจ้าหน้าที่เคยเข้าไปแจ้งเตือน ให้รีบดำเนินการติดต่อกลับมายังบริษัทโดยเร็ว เพื่อจะได้ขออนุญาตใช้ผลงานเพลงให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งไม่อย่างนั้นเจ้าหน้าที่ของบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย ก็จำเป็นที่จะต้องนำกฏหมายมาบังคับใช้ต่อผู้ที่กระทำการละเมิด จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ในฐานความผิดละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้า โดยยังไม่ได้ยังไม่ได้รับอนุญาตเช่นเดียวกันนี้ ซึ่งจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง4ปี ปรับตั้งแต่ 1แสน ถึง 8 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ