นิด้าโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง "เกาะติดสถานการณ์ การเลือกตั้ง 2562" ผลสำรวจชี้คนอยากให้ "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯ แต่เลือกเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

วันที่ 15 ก.พ. 2562 มีรายงานว่า "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในเรื่อง "เกาะติดสถานการณ์ การเลือกตั้ง 2562" โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-7 ก.พ. 2562 ที่ผ่านมา จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,091 หน่วยตัวอย่าง

จากการสำรวจในหัวข้อ "บุคคลที่อยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน" พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 26.06 เลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอันดับที่ 1, อันดับที่ 2 ร้อยละ 24.01 เลือก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, อันดับ 3 ร้อยละ 11.91 ระบุว่า ไม่แน่ใจ, อันดับ 4 ร้อยละ 11.43 ระบุว่าเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, อันดับ 5 ร้อยละ 6.26 ระบุว่า ไม่สนับสนุนใครเลย, อันดับ 6 ร้อยละ 5.98 ระบุว่าเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, อันดับ 7 ร้อยละ 5.50 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, อันดับ 8 ร้อยละ 4.54 ระบุว่าเป็น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์, อันดับ 9 ร้อยละ 1.15 ไม่ระบุ และ อันดับ 10 ร้อยละ 0.91 ระบุว่าเป็น นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา

ส่วนหัวข้อ "พรรคการเมืองที่อยากให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่" พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เลือก พรรคเพื่อไทย เป็นอันดับที่ 1 ร้อยละ 36.49, อันดับ 2 ร้อยละ 22.57 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ, อันดับ 3 ร้อยละ 15.21 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 4 ร้อยละ 8.18 ระบุว่าเป็น พรรคอนาคตใหม่, อันดับ 5 ร้อยละ 4.97 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย, อันดับ 6 ร้อยละ 4.40 ระบุว่า ไม่แน่ใจ, อันดับ 7 ร้อยละ 3.06 ระบุว่า ไม่สนับสนุนพรรคใดเลย, อันดับ 8 ร้อยละ 1.39 ระบุว่าเป็น พรรคชาติไทยพัฒนา, อันดับ 9 ร้อยละ 0.91 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อชาติ / พรรคภูมิใจไทย ในสัดส่วนที่เท่ากัน และ อันดับ 10 ร้อยละ 0.43 ระบุว่าเป็น พรรคไทยรักษาชาติ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในสัดส่วนที่เท่ากัน

ด้านความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุดที่อยากเห็นจากรัฐบาลชุดใหม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.85 ระบุว่า แก้ปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน รองลงมา ร้อยละ 27.93 ระบุว่า ส่งเสริมราคาสินค้า/พืชผลทางการเกษตร ร้อยละ 4.26 ระบุว่า โครงการเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี ร้อยละ 2.77 ระบุว่า แก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ร้อยละ 1.82 ระบุว่า แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ร้อยละ 1.48 ระบุว่า แก้ไขปัญหาด้านการคมนาคม ร้อยละ 1.20 ระบุว่า แก้ไขปัญหายาเสพติด อาชญากรรม มิจฉาชีพ ร้อยละ 0.96 ระบุว่า ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 0.77 ระบุว่า ส่งเสริมการศึกษาระดับอาชีวศึกษาร้อยละ 0.57 ระบุว่า การบังคับใช้กฎหมายด้วยความเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติร้อยละ 0.48 ระบุว่า แก้ไขปัญหาการว่างงาน และการจัดสรรที่ดินทำกิน ร้อยละ 0.43 ระบุว่า การพักหนี้ กยศ. และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 0.29 ระบุว่า ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใช้ในประเทศ ร้อยละ 0.24 ระบุว่า กัญชาเสรี ร้อยละ 0.18 ระบุว่า นำรถเก่าแลกซื้อรถพลังไฟฟ้า และเลิกเกณฑ์ทหาร ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 0.05 ระบุว่า นำเข้าหน้ากากได้โดยไม่เสียภาษี ร้อยละ 0.08 ระบุว่า ยกเลิกการสอบ GAT/PAT ร้อยละ 0.96 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ แก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ แก้ปัญหาด้านราคาน้ำมัน แก้ปัญหาการว่างงาน และจัดสรรที่ดินทำกิน ปฏิรูปด้านการศึกษา ขณะที่บางส่วนระบุว่า การส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยว และร้อยละ 0.05 ระบุว่า ไม่แน่ใจ