ตำรวจเข้าค้นบ้านพัก น้องสามี "เจ๊ยุ" เจ้าของเขียงขายเนื้อ ยึดเสื้อผ้า และ รองเท้าตรวจเทียบเคียง และ ยังคุมตัวไว้เค้นสอบตามคำให้การของหลานชาย 4 ขวบ ยืนยันร่วมกับ คนร้ายอีก 1 คน ที่ใช้ผ้าปิดบังหน้าก่อเหตุ ล่าสุดตรวจสอบทองคำหายไปน้ำหนักรวม 25 บาท (จากเดิมที่สามีให้ข้อมูลว่าหายไปเกือบ 50 บาท ) ส่วนเงินสดหายไป 4 แสน 5 หมื่นบาท เบื้องต้นพบอีกว่า สามี ใช้การ วก วน มีพิรุท

จากกรณี 2 คนร้าย 1 ในนั้นสวมไอ้โม่ง บุกเข้าไปยิง นางยุพาพร บุราญรัตน์ หรือ เจ๊ยุ เจ้าของเขียงเนื้อ ต่อหน้าหลานชายวัย 4 ขวบ ภายในบ้านพัก ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ช่วงเช้ามืด วันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา 

ซึ่งในตอนนี้ "เจ๊ยุ" ยังอยู่ในอาการโคม่า ไม่รู้สึกตัว อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดที่ โรงพยาบาลขอนแก่น พบถูกยิง กระสุนทะลุหัวไหล่ 1 นัด และ ยิงเข้าที่หลังศีรษะ 1 นัดกระสุนฝัง และ ถูกมีดแทงศรีษะ ขณะที่คนร้ายชิงทองคำ และ เงินสดหลบหนีไป 

วานนี้( 16 ธันวาคม ) พันตำรวจโท เจษฎา แปงการิยา สารวัตร สืบสวน สอบสวนตำรวจภูธรบ้านไผ่ เปิดเผยความคืบคดี ว่า ตำรวจยังคุมตัว น้องชายสามีของ "เจ๊ยุ" (ผู้บาดเจ็บ) ไว้เค้นสอบ ตามคำให้การของหลานชาย วัย 4 ขวบได้ ชี้ภาพถ่ายยืนยันว่า เป็นผู้ร่วมก่อเหตุ ยิงเจ๊ยุ แต่เบื้องต้น เจ้าตัว ให้การปฏิเสธระบุว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆทั้งสิ้น 

ขณะเดียวกันตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อ สอบสวน พยานแวดล้อม ว่ามีใครได้ยินเสียงปืนหรือพบบุคคลต้องสงสัยเข้าไปในบ้านก่อเกิดเหตุหรือไม่ และ พยายาม ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เพื่อตามจับ คนร้ายที่ใช้ผ้าปิดบังหน้า เชื่อว่า คนร้ายรายนี้นำทรัพย์สิน ที่ชิงจาก เจ๊ยุ ไปทั้งหมด 

พันตำรวจโท เจษฎา กล่าวอีกว่าจากการสอบสวน สามี "เจ๊ยุ" ตอนนี้ให้การวก วน เดิมระบุว่า เงินที่ขายวัว 15 ตัว หายไป 4 แสน 5 หมื่นบาท และ ทองคำที่สวมใส่ และ เก็บไว้ในกระเป๋า หายไปเกือบ 50 บาท แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า หายไปแค่ที่เจ๊ยุสวมใส่ น้ำหนักรวม 25 บาท คือ สร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท กำไลข้อมือข้างซ้ายหนัก 10 บาท และ กำไลข้างขวาหนัก 5 บาท 

ส่วนเงินสด 5 แสน 6 หมื่นบาท ที่พบในตะกร้า วางอยู่ภายในห้องนอน สามี ให้การว่าน่าจะเป็นเงินที่ขายของได้ เจ๊ยุ ยังไม่เอาเข้าธนาคาร และ ยังยืนยันว่า คนร้าย ชิงเงินสดที่ขายวัวไป 4 แสน 5 หมื่นบาท 

พันตำรวจโท เจษฎา ระบุว่า ในตอนนี้ทำให้ตำรวจต้องคุมตัว 2 พี่น้อง บุคคลใกล้ชิด "เจ๊ยุ" และ ตกเป็นผู้ต้องสงสัย มากที่สุดในขณะนี้ เพราะตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ไม่มีรอยงัดแงะ ไม่มีรอยรื้อค้น มีรอยต่อสู้ จึงเชื่อว่า คนร้ายเป็นคนใกล้ชิด และจุดน่าสังเกต คนร้ายรู้ได้อย่างไรว่าเงินที่ขายวัวเก็บไว้จุดใด ทำไมเจาะจงเอาเงินไปแค่ส่วนเดียว ส่วนเงินกว่า 5 แสนในตะกร้า ทำไมคนร้ายไม่เอาไป 

และ พบอีกทั้ง น้องชายสามี "เจ๊ยุ" (ผู้บาดเจ็บ) เคยอาศัยอยู่ในบ้านจุดเกิดเหตุ ที่ระยะหลัง เจ๊ยุ ไม่ให้อยู่ด้วย น้องชายสามี "เจ๊ยุ" จึงกลับไปอยู่ที่บ้านเก่า ห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร โดยตำรวจจะคุมตัวบุคคลต้องสงสัย ก่อเหตุไว้สอบสวน จนกว่าจะสิ้นข้อสงสัย

นอกจากนี้ในช่วงบ่าย พันตำรวจเอก จำรัส จันแดง ผู้กำกับตำรวจภูธรบ้านไผ่ นำกำลังตำรวจ ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ ศพฐ.4 เข้าตรวจค้นในบ้านพัก "เจ๊ยุ" เพื่อหาร่องร่อย คนร้ายและหลักฐานเพิ่มเติม  ใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง ได้พบหัวกระสุน ตกอยู่ใกล้จุดที่ "เจ๊ยุ" นอนจมกองเลือด 2 หัว เป็นหัวกระสุนขนาด จุด 38 ชนิดเดียวกับที่ฝังอยู่ที่ศีรษะ" เจ๊ยุ" จึงได้นำกลับไปตรวจพิสูจน์ ว่า กระสุนที่พบมาจากปืนของใคร และ เชื่อว่าปืนที่ก่อเหตุ และทรัพย์สินอยู่กับคนร้าย ที่ยังหลบหนี

ล่าสุด ตำรวจยังได้รวบรวมหลักฐานตามคำให้การขอพยาน เสนอศาลออกหมายจับ น้องชาย สามี"เจ๊ยุ" ในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ในเคหสถานเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธปืน และ มียานพาหนะเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

นอกจากนั้น ตำรวจ ยังได้เข้า ตรวจค้นที่บ้านพักของ น้อง สามี"เจ๊ยุ" พักอาศัย ได้นำเสื้อผ้า ชุดทหาร 2 ตัว กลับมาตรวจสอบ เนื่องจากหลานชายวัย 4 ขวบ ให้การว่า คนร้ายใส่ชุดทหาร นอกจากนี้ยังได้นำรองเท้ากลับมา เทียบกับรอยในที่เกิดเหตุ โดยต้องใช้เวลาในการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ สืบสวนอีกชุดหนึ่งก็ได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด เส้นทางที่คาดว่าผู้ต้องสงสัยใช้ในการเดินทางไปก่อเหตุ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 วัน

น้องสามีปฏิเสธยิง "เจ๊ยุ" เจ้าของเขียงขายเนื้อชิงทองคำ-เงินสด