หลังจากที่ สนช. มีมติประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติเก็บภาษีผู้ค้าออนไลน์ ที่รับโอน 3 พันครั้งต่อปี หรือมียอดเงิน 2 ล้านบาทต่อปี ต้องถูกสรรพากรตรวจสอบ ทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปสอบถามความเห็นกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ ซึ่งมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

การประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่มีมติเห็นสมควรประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่ม โดยมีสาระสำคัญคือ ให้สถาบันการเงินต้องรายงานข้อมูลของบุคคลและนิติบุคคล ที่มีความเคลื่อนไหวทางบัญชีในการทำธุกรกรรม ในการฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชี จำนวน 3,000 ครั้งต่อปี

และฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 400 ครั้ง หรือมียอดตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปต่อปี ต้องส่งให้กรมสรรพากรตรวจสอบ เพื่อประโยชน์ในการเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง

ทีมข่าวช่อง 8 จึงได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับผู้ค้าออนไลน์ ทั้งรายใหญ่และรายย่อย ซึ่งต่างมีความเห็นที่แตกต่างกัน ในส่วนของผู้ค้าออนไลน์รายใหญ่ ที่มีการจดทะเบียนการค้าแล้ว มองว่า การเก็บภาษีจากกลุ่มคนขายของออนไลน์ไม่กระทบต่อการขายสินค้า เพราะถือเป็นหน้าที่ที่ต้องจ่าย

ขณะที่อดีตผู้สื่อข่าว ที่ผันตัวมาเป็นแม่ค้าออนไลน์ ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นเข้าวงการค้าขายออนไลน์ มองว่า การเรียกเก็บภาษี จะทำให้ผู้ค้าออนไลน์ที่ทำเป็นรายได้เสริม อาจจะเลิกขายไปเลย เพราะไม่สามารถแบกรับภาระด้านภาษีได้

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ค้าออนไลน์ ยังฝากถึงรัฐบาลว่า ควรส่งเสริมกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ให้มีกฎหมายรองรับอย่างถูกต้อง เพราะช่วงนี้เทรนการขายของออนไลน์ กำลังเป็นที่นิยม และสร้างรายได้ให้กับคนในประเทศเป็นจำนวนมาก และหากจะเก็บภาษีค้าออนไลน์ ก็ควรจะจัดสวัสดิต่างๆ ให้กลุ่มผู้ค้าออนไลน์ด้วย

ผู้ค้าออนไลน์วอนมีกฏหมายชัดเจนในการเก็บภาษี