นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ย้ำเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. 62 แต่อาจมีเหตุให้เลื่อน ชี้รัฐบาลคสช. ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการระหว่างรอรัฐบาลใหม่

วันที่ 8 พ.ย. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย แถลงข่าวถึงการเตรียมการของครม. ในการเลือกตั้งว่า ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะมีผลบังคับใช้ เพื่อจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน หรือภายในวันที่ 9 พ.ค. 2562 แต่พรรคการเมืองยังไม่สามารถหาเสียงได้ จนกว่าจะมีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. โดยคาดว่าจะมีการประกาศในช่วงวันที่ 16-27 ธ.ค.นี้ เพื่อให้พรรคการเมืองสามารถหาเสียง และคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศวันเลือกตั้ง วันรับสมัคร ส.ส. รวมถึงเขตการเลือกตั้ง หลังจาก พ.ร.ฎ. ประกาศใช้ 5 วัน

ทั้งนี้การปลดล็อคคำสั่ง คสช. จะเกิดขึ้นพร้อมกันหรืออาจช้ากว่าเพียง 1 วัน หลังพระราชกฤษฎีกาประกาศใช้ แต่ยอมรับว่าต่อให้มีการปลดล็อคคำสั่ง คสช. แต่อาจมีการติดล็อคในเรื่องการหาเสียงพรรคการเมือง ตามมาตรา 67, 173, 174 และมาตรา 175 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับ กกต. ที่เป็นผู้กำหนดวิธีการหาเสียงเลือกตั้ง ส่วนการเริ่มคิดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงตั้งจะเริ่มนับเมื่อแต่ พ.ร.ฎ. ประกาศใช้เช่นกัน

ขณะที่วันเลือกตั้ง นายวิษณุ ยังคงยืนยันว่า อาจจะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. 2562 แต่ยอมรับว่าอาจมีเหตุให้เลื่อน ส่วนการนับคะแนนและการเลือกตั้งซ่อมจะเกิดขึ้นในเดือน มี.ค. 2562 จากนั้นจะประกาศผลการเลือกตั้งแต่ต้องไม่เกินวันที่ 24 เม.ย. 2562 ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าต้องทำภายใน 60 วันนับจากวันเลือกตั้ง

ทั้งนี้ภายในวันที่ 8 พ.ค. 2562 จะต้องเปิดรัฐสภา เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี รวมถึงคณะรัฐมนตรี 35 คน เพื่อนำขึ้นโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง และหลังแต่งตั้งภายใน 15 วัน คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน และต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในเดือนมิถุนายน 2562

นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังระบุว่า รัฐบาลคสช. ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการเหมือนรัฐบาลชุดก่อนๆ เพราะรัฐบาลรักษาการจะเกิดขึ้น 4 กรณี คือ นายกรัฐมนตรีสิ้นสภาพ ครม.ลาออกทั้งคณะ ยุบสภา และอยู่ครบวาระ 4 ปี แต่รัฐบาลรักษาการจะไม่สามารถเสนอโครงการ อนุมัติงบประมาณที่มีผลผูกพันธ์กับรัฐบาลหน้า รวมถึงแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ และใช้ทรัพย์สินภายใต้เงื่อนไข ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของ ครม. ชุดปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ครม. หรือ 4 รัฐมนตรีที่เข้าไปเกี่ยวพันธ์กับพรรคการเมือง จะต้องระวังเรื่องการใช้เวลา การใช้ทรัพย์สิน บุคลากร และสถานที่ของทางราชการ ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองรวมถึงนายกรัฐมนตรี จะต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่ใช้ตำแหน่งเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองที่ชอบและไม่ชอบ

ขณะเดียวกันรัฐบาลคสช. จะสิ้นสภาพเมื่อรัฐบาลชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเท่านั้น และปฏิทินนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการนัดหารือระหว่าง คสช. กกต. และพรรคการเมือง โดยนายวิษณุยังปฏิเสธไม่ทราบว่าการประชุมดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อใดเพราะเป็นเรื่องของคสช. แต่คาดว่าน่าจะเป็นหลังวันลอยกระทงหรือวันที่ 22 พ.ย.นี้