"พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ออกมาระบุ ว่า 4 ปีที่ผ่านมา "นายทักษิณ ชินวัตร" เคลื่อนไหวกระทบความมั่นคงมาตลอดไม่เคยหยุด แต่ยืนยันไม่กระทบการเลือกตั้ง ย้ำเลือกตั้ง 24 ก.พ.ปี 62 ตามเดิม

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคลื่อนไหวให้สัมภาษณ์กับสื่อประเทศญี่ปุ่นเกี่ยวกับประเด็นการเมือง ว่า เรื่องดังกล่าวต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา แต่คงไม่สั่งให้กกต.ไปตรวจสอบ เพราะตนไม่สามารถสั่งกกต.ได้

ส่วนตัวไม่มีอะไรจะพูดฝากถึงนายทักษิณ เพราะที่ผ่านมา นายทักษิณ เคลื่อนไหวมาตลอด 4 ปี ไม่เคยหยุด แต่อยากให้สื่อพูดว่า สิ่งที่นายทักษิณ พูด และทำ มันกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงอย่างไร จึงขอให้สื่อช่วยเขียนให้หน่อย แต่ยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ไม่กระทบต่อสถานการณ์การเมือง และยืนยันว่า จะมีการเลือกตั้งแน่นอนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562

ส่วนกรณีคดีที่ดินรัชดาฯ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่หมดอายุความไปเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมนั้น

พลเอก ประวิตร ระบุว่า คดีนี้ตัดสินไปแล้ว และไม่มีการยกประโยชน์อะไรให้จำเลย แต่ถ้าอายุความหมดไปรื้อใหม่ได้ และยังอีกหลายคดียังไม่ดำเนินการ

"อนุสรณ์"แจง"ทักษิณ"สัมภาษณ์สื่อนอกแค่วิเคราะห์การเมือง ไม่กระทบมั่นคง

ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ว่า นายทักษิณ จะพูดอะไร  พลเอก ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ต้องหนักแน่น เพราะก่อนหน้านี้ รัฐบาลพูดมาตลอดว่า ผลงาน 4 ปีรัฐบาลที่โดดเด่น คือการ ทำให้ประเทศสงบ แต่พลเอก ประวิตร ที่กำกับดูแล งานด้านความมั่นคง กลับมาบอกเสียเองว่า การให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณกระทบต่อความมั่นคง

ทั้งที่การที่นายทักษิณวิเคราะห์ว่าพรรคฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยจะได้ที่นั่งในสภาเกิน 300 ที่นั่งนั้น เป็นเพียงการวิเคราะห์คาดการณ์ แบบวิญญูชนทั่วไป ชาวบ้านก็คิดวิเคราะห์กันได้  ไม่น่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงแต่อย่างใด

จึงไม่อยากให้ใครไปขยายความให้เกิด ตื่นตระหนก หรือ มองโลกในแง่ร้าย โดยเฉพาะคนของรัฐบาล เพราะเป็นเพียงแค่การวิเคราะห์คาดการณ์ทางการเมืองเท่านั้น

ทนาย"ยิ่งลักษณ์"แฉ ป.ป.ช.บางคนเตรียมใช้คดีจีทูจีเอาผิด"ทักษิณ"เพิ่ม

ขณะที่นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ นางสาว ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดใหญ่ อย่าตกเป็นเครื่องมือหรือยอมถูกใช้ เพื่อเป็นวาระทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง

เพราะเมื่อต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่า กรรมการ ป.ป.ช.รายหนึ่งที่มีอคติต่อ นางสาว ยิ่งลักษณ์ มีความพยายามที่จะนำคดีระบายข้าว (จีทูจี) มาดำเนินคดีใหม่อีกเป็นครั้งที่ 2

โดยจะมีการกล่าวหาบุคคลเพิ่มเติม  คือ ให้จำเลยหลายรายในเรือนจำให้การซัดทอดถึงนายทักษิณ และเครือญาติ  เพื่อแลกกับ สิทธิประโยชน์ที่ไม่ต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำ แต่ให้อยู่ในโรงพยาบาลแทน

หากเป็นจริงตามกระแสข่าวดังกล่าาว ถือเป็นเรื่องเศร้ายิ่งนัก ที่มีกรรมการ ป.ป.ช.บางคนนำองค์กรมาเป็นเครื่องมือในทางการเมืองเพียงเพื่อทำลายชื่อเสียงของอดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งสองคน และทำลายความน่าเชื่อถือของ พรรคเพื่อไทย จึงขอเรียกร้องให้กรรมการ ป.ป.ช. อย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่จะนำองค์กรมาเป็นเครื่องมือ เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง