หลังสนช. รับร่างพรบ.มวยที่มีการปรับแก้ โดยเสนอห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นแข่งขันชกมวย ทีมข่าวช่อง 8 เลยไปสำรวจความคิดเห็นคนในวงการหมัดมวย ซึ่งส่วนใหญ่มองว่า เป็นการปิดโอกาสเด็ก และอาจทำให้มวยไทยตกต่ำไปด้วย

จากกรณีที่พลเอกอดุลยเดช อินทะพงษ์ และคณะรวม 39 คน เสนอร่าง พรบ.มวยให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยให้รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา รับร่างกฎหมายดังกล่าวไปศึกษา และนำกลับมาเสนอภายใน 30 วัน

โดยภายในร่าง พรบ.มวยนี้ กำหนดให้นักกีฬามวยที่จะเข้าแข่งขัน ต้องขึ้นทะเบียนต่อนายทะเบียนนอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้ผู้จัดรายการแข่งขันกีฬามวย และนายสนามมวย อนุญาตให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าร่วมแข่งขัน เว้นแต่ได้รับความชอบจากนายทะเบียน

และห้ามเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งการจัดการแข่งขันต้องมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมประสบการณ์ในกิจกรรมด้านการกีฬา และมีมาตรการป้องกันอันตรายทางร่างกาย รวมถึงมีกฎกติกาการเล่นที่เหมาะสมเป็นการเฉพาะ

ทีมข่าวช่อง8 ได้มีโอกาสพูดคุยกับครูเป็ด เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง อดีตนักมวยที่ผันตัวเองมาเปิดโรงเรียนสอนมวยไทย เขามองว่า ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว เพราะกีฬามวยต้องฝึกตั้งแต่เด็ก คล้ายการเรียนหนังสือ เพื่อสร้างทักษะให้กับเด็ก เพื่อนำไปใช้ในการเป็นนักมวยอาชีพ

สอดคล้องกับความเห็นของครูสอนมวย ที่มองว่า การห้ามไม่ให้เด็กต่ำกว่า 12 ปีขึ้นชก ถือเป็นการปิดโอกาสเด็กที่จะได้ฝึกฝนทักษะ และในอนาคตอาจทำให้นักมวยไทยฝีมือด้อยกว่าชาวต่างชาติ และอาจทำให้สูญเสียศิลปะมวยไทยไป

แตกต่างจากเด็ก และผู้ปกครองบางคน ที่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยมองว่า เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี อาจจะยังเด็กไปที่จะเป็นนักกีฬามวยอาชีพ

ขณะที่ประชาชนต่างมีความเห็น แตกต่างกันไป บางคนมองว่า ถ้าเรื่องของความปลอดภัย ก็เห็นด้วยที่ไม่ควรให้เด็กขึ้นชก แต่ถ้าในมุมของกีฬา หากเราไม่สอนเด็กตั้งแต่ยังเล็ก อาจทำให้ขาดโอกาสที่ประเทศไทยจะมีนักมวยที่แข็งแกร่ง

สำหรับ พรบ.ดังกล่าวนอกจากกำหนดขอห้ามเพิ่มเติมแล้ว ยังมีการกำหนดโทษกรณีที่มรการล้มมวย โดยผู้ที่จูงใจให้นักมวยล้มมวยมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แต่หากเป็นกรณีที่ผู้ตัดสินรับทรัพย์สิน เพื่อแลกกับการตัดสินที่ไม่เป็นธรรม จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ