อธิบดีกรมศิลปากร ระดมวิศวกร เร่งบูรณะค้ำยันเจดีย์ยักษ์ หรือ หอระฆัง พร้อมนำเครื่องเลเซอร์สแกน 3 มิติ ตรวจสอบโครงสร้างเจดีย์ เพื่อประเมินความเสียหาย และแนวทางการบูรณะซ่อมแซม

ภรรยานายสุริยันต์ ทองสาย อายุ 46 ปี ช่างเชื่อมที่เสียชีวิต หลังถูกเจดีย์ยักษ์ หรือหอระฆัง  วัดพระยาทำวรวิหาร พังถล่มทับร่าง เมื่อวานนี้  ทำพิธีเชิญเชิญดวงวิญญาณ พร้อมพูดว่า ”เลิกงานแล้ว กลับบ้านได้แล้วเด้อ” ก่อนที่จะเดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบางประกอกต่อไป 

ขณะที่ นายจันทร คงยิ่งหาญ หนึ่งในคนงานที่บาดเจ็บ  เผยนาทีว่า ก่อนที่ช่างจะดีดเจดีย์ คนงานทุกคนได้จุดธูปขอขมาให้ทำงานปลอดภัย จนกระทั่งใกล้เที่ยง ตนได้ยินเสียงดังลั่น ก่อนที่เจดีย์ยักษ์จะหล่นลงมาทับร่างเพื่อนร่วมงาน ซึ่งตนเองก็โดนเศษปูนหล่นใส่ศรีษะแตก พร้อมยอมรับวันนี้ยังหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ 

ด้านนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ได้สั่งการ 3 เรื่องสำคัญ คือ การหาสาเหตุ การหามาตรการป้องกันโบราณสถาน และ การหามาตรการอนุรักษ์ เบื้องต้น ได้ให้เจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์มาค้ำยันเจดีย์ยักษ์ ไม่ให้ทรุดตัวลงอีก

ส่วนการเกิดเหตุครั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ ได้สอบถามวิศวกรที่คุมงานบอกว่า มีปัญหาเรื่องอุปกรณ์ ขณะกำลังยกตัว พบว่า องค์เจดีย์มีการเอียงก่อนจะทรุดลงไป ซึ่งจะเป็นความผิดของผู้รับเหมา หรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ แต่หากผิดก็จะมีการแจ้งข้อหาต่อไป

นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้ นำเครื่อง 3D เลเซอร์ Scanning  มาเก็บขนาดเสมือนจริง ของเจดีย์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล โดยหลังจากนี้ จะนำข้อมูลไปประมวลภาพจากคอมพิวเตอร์ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนก่อนบูรณะซ่อมแซมอีก

ญาติทำพิธีขอขมา "เชิญวิญญาณ" คนงานถูก "เจดีย์" ถล่มทับ