อดีตเทรนเนอร์ค่ายมวย ประสานขอเข้ามอบตัวเป็นพยานในคดียิงคนตายหน้าผับดัง จ.ระนอง หวั่นถูกวิสามัญฆาตกรรม

กรณีอดีตเทรนเนอร์ค่ายมวย และกลุ่มนักมวย ชักปืนยิงแสกหน้านายเทพฤทธิ์ แซ่อ๋อง อายุ 35 ปี จนเสียชีวิต หลังจากเข้าไปห้ามปรามเหตุทะเลาะวิวาทหน้าผับชื่อดังแห่งหนึ่งบนถนนเรืองราษฏร์ อ.เมืองระนอง ก่อนจะหลบหนีไป

พลตำรวจตรีดำรัส วิริยะกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 8 ระบุว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 2 ราย คือ นายเกรียงศักดิ์ ถิระไช อายุ 35 ปี หรือ "ศักดิ์ ผาสุก" และ นายภูมิพรรดิ์ ชาติประนอบไชย อายุ 48 ปี หรือฉายา "เป้ ทัพพระยา" โดยนายเกรียงศักดิ์เป็นคนถือปืนขู่ ก่อนที่นายภูมิพรรดิ์ จะเดินปรี่มายิง

โดยยืนยันว่าตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังระดมทีมไล่ล่ากลุ่มคนร้าย และเตรียมออกหมายจับคนร้ายเพิ่มเติม ล่าสุดได้เรียกภรรยาหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้ามาสอบปากคำ โดยอ้างว่า หลังเกิดเหตุสามีโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่าอยู่ในที่เกิดเหตุจริง แต่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุแต่อย่างใด อีกทั้งพยายามห้ามแล้วแต่มือปืนทั้งสองคนไม่ฟัง จึงอยากจะขอเข้ามอบตัวเนื่องจากเกรงว่าอาจถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม อีกทั้งเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ยินดีเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย

ด้านนายพรศักดิ์ แซ่อ๋อง พ่อผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า หากตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ ทางครอบครัวจะไม่เผาศพลูกชาย พร้อมจะแห่ศพไปเรียกร้องถึงโรงพักอย่างแน่นอน

ขณะที่พันตำรวจโทธนวัต เส้งสุย รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า ทางตำรวจระนองได้ส่งหมายจับของนายเกรียงไกร มาเพื่อให้ช่วยติดตามตัว เนื่องจากเชื่อว่ามากบดานอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากเป็นบ้านเกิดของนายเกรียงไกร และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยก่อเหตุขับรถไล่ยิงถล่มคู่อริกลางเมืองหาดใหญ่จนเป็นข่าวดังมาแล้ว ซึ่งคดียังอยู่ในชั้นศาล และเมื่อ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ยังไปก่อเหตุยกพวกไล่ฟันคู่อริ เผารถจักรยานยนต์ แต่ผู้เสียหายไม่กล้าแจ้งความเพราะเกรงกลัวอิทธิพล

หนึ่งในทีมนักมวยโหดประสานขอเข้ามอบตัวเป็นพยาน หวั่นถูกวิสามัญ