พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา เตรียมหารือนายกรัฐมนตรี จัดงานเลี้ยงขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการช่วยเหลือทีมหมูป่า

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการจัดงานเลี้ยงขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวกับภารกิจการช่วยเหลือ ทีมหมูป่า 13 คนว่า จะต้องมีการหารือกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งอาจจะจัดเลี้ยง ทั้งที่จังหวัดเชียงรายและกรุงเทพมหานคร

เนื่องมีผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ส่วนที่มีจิตอาสา เข้าไปร่วมฟื้นฟูพื้นที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนนั้น ถือว่า เป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติภารกิจครึ่งเดือนที่ผ่านมา ยอมรับว่า ทำให้พื้นที่ได้รับความเสียหาย จึงต้องเข้าไปฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ขณะที่ส่วนราชการกำลังหารือถึงแนวทางการพัฒนาในอนาคต

ส่วนการถอดบทเรียนจากภารกิจครั้งนี้ ตนเองมองว่า ที่ผ่านมา การปฏิบัติหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ถือว่า เป็นความร่วมมือระหว่างหลายหน่วยงาน และหลายภาคส่วน จึงต้องนำมาทบทวน และทำเป็นแผน

เพื่อเป็นโมเดลสำหรับแนวทางการปฏิบัติในอนาคต เช่นเดียวกับการทำงานของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยซีล ที่ไม่เคยฝึกซ้อมภารกิจการดำน้ำในถ้ำ จึงต้องมีการถอดบทเรียน ให้ภาคส่วนต่างๆ นำไปประยุกต์ใช้ได้ โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะนำไปใช้ในการดูแลความปลอดภัยพื้นที่ถ้ำต่างๆ

ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงแผนการฟื้นฟู ถ้ำหลวงขุนน้ำ-นางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการร่างวางแผนฟื้นฟู ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ก่อนส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง เพราะมีความเกี่ยวข้องกับงบประมาณ

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนวานนี้ พบว่า พื้นที่ได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก จึงเป็นหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ที่ต้องเข้าไปฟื้นฟู โดยเบื้องต้น ได้มีการ Kick Off ไปแล้ว ทั้งการนำท่อน้ำที่ใช้ในการเบี่ยงทางน้ำไหลออกจากพื้นที่แล้ว

ส่วนข้อเสนอที่จะยกสถานะ จากวนอุทยานเป็นอุทยานแห่งชาตินั้น เป็นความต้องการของประชาชนหลายภาคส่วน เพราะการประกาศเป็นอุทยาน จะต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนในพื้นที่ ขณะนี้กำลังสำรวจว่า จะเอาพื้นที่ใดรวมเข้ามาก่อนกำหนดพื้นที่อีกครั้ง