รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุค้นโรงงานขยะอิเลคทรอนิกส์ พบ 19 โรงงานมีความผิด พร้อมยอมรับดำเนินคดีกับนายทุนชาวต่างชาติ ที่ให้คนไทยถือหุ้นนอมินีได้ยาก เตรียมเสนอใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหาการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์
พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจค้นโรงงานขยะอิเล็กทรอนิกส์ว่า จากการเข้าตรวจสอบพบ 19 บริษัท ที่เข้าข่ายความผิด โดยในจำนวนนี้ มี 15 บริษัท เป็นของนักลงทุนชาวต่างชาติ
ส่วนอีก 4 บริษัทใช้คนไทยเป็นนอมินีในการถือหุ้นแทน และยังพบว่า มีคนไทยทำหน้าที่ในการช่วยเหลือตกแต่งบัญชี เพื่อหลีกเลี่ยงสรรพากร ซึ่งชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า ผู้ใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยจะดำเนินคดีต่อไป
พลตำรวจเอก วิระชัย ยอมรับว่า บริษัทที่มีคนไทยเป็นนอมินี ถือหุ้นแทนนายทุนชาวต่างชาติ เป็นอุปสรรคสำคัญ ที่ทำให้ดำเนินคดีกับนายทุนชาวต่างชาติได้ยาก ซึ่งขณะนี้ สามารถดำเนินคดีได้เพียงแต่เจ้าของ ผู้ถือหุ้นเท่านั้น
ทางชุดทำงานจึงเตรียมเสนอใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหาการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ หลังมีข้อติดขัดในการใช้บังคับใช้ข้อกฎหมายของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเชื่อว่า จะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า
สำหรับขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก ที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศไทย จะมีการผลักดันส่งกลับยังประเทศต้นทาง โดยบริษัทที่นำเข้ามาต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
){kind=link}
){kind=link}