ทั่วโลก เกาะติดชมภาพประวัติศาสตร์ ผู้นำสองเกาหลี พบปะหารือ จูงมือกัน เดินข้ามพรมแดน พร้อมประชุม และ ร่วมกัน ปลูกต้นไม้แห่งสันติภาพ

นาทีประวัติศาสตร์ของชาวโลก เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 65 ปี ซึ่ง เกิดขึ้น วานนี้ (27 เม.ย.) เวลา 09.30 น. หรือตรงกับ เวลา 07.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย และ ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก

โดย นายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยืนรอต้อนรับ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ  บริเวณริมเส้น ขนานที่ 38 ซึ่งเป็นพรมแดนของสองเกาหลี

ทันทีที่ ทั้งคู่พบกัน ต่างยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร และ จับมือกัน จากนั้น นายมุน แจ อิน กล่าวเชื้อเชิญ นายคิม จอง อึน เดินข้ามพรมแดน เข้าเขตเกาหลีใต้ และ พากันจูงมือก้าวข้ามเส้นพรมแดนเข้าเกาหลีใต้ ไปพร้อมกัน

ส่วน นายคิม จอง อึน ก็เชิญให้นาย มุน แจ อิน ก้าวเท้า ข้ามแดนไปยังเขตเกาหลีเหนือ ทั้งคู่ใบหน้ายิ้มแย้ม มีความสุข

ส่วนพิธีการ ในช่วงสาย สองผู้นำเกาหลี ประชุมร่วมกันที่ หมู่บ้าน ปัน-มุน-จอม ฝั่งเกาหลีใต้ โดย นายคิม จอง อึน ลงนามในสมุดอาคันตุกะ สร้างประวัติศาสตร์ หน้าใหม่ ความสัมพันธ์ของ 2 เกาหลี

สื่อท้องถิ่นเกาหลีใต้ รายงานว่า ระหว่างการพูดคุย นายคิม จอง อึน ได้ไถ่ถาม นายมุน แจ อิน ถึงกิจวัตรประจำวัน บอกว่า ได้ข่าวมาว่า ผู้นำเกาหลีใต้ เป็นคนตื่นเช้า พร้อมกล่าวว่า ตนจะรบกวนเวลาไม่นาน ผู้นำเกาหลีใต้ จะได้พักผ่อน

นอกจากนี้ ผู้นำเกาหลีเหนือ ยังกล่าว ชมวิวทิวทัศน์ และ ภาพบ้านเรือน ในกรุงโซล ของเกาหลีใต้ พร้อมกล่าวว่า ตอนนี้ เกาหลีเหนือ ยังไม่พร้อม ที่จะก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน แต่ในอนาคตอาจจะมีโอกาส ที่ 2 เกาหลี จะมีรถไฟฟ้า เชื่อมโยงกัน

ส่วนในช่วงบ่าย ทั้งคู่เดินทางไปปลูกต้นไม้ โดยเป็น "ต้นสน" ใช้ดินจากสองประเทศ บนเส้นขนานที่ 38 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ

ด้าน ผู้นำทั่วโลก ต่างแสดงความชื่นชม และ หวังว่าความสัมพันธ์ที่ดี ของสองเกาหลี จะช่วยลดความตึงเครียด ในการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ของเกาหลีเหนือ

 

เวทีผู้นำอาเซียนครั้งที่ 32 เตรียมแสดงความยินดี 2 ผู้นำเกาหลีจับมือ

ขณะที่ ความเคลื่อนไหวฝั่งไทย พลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงท่าทีในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 27 - 28 เมษายน ต่อความสัมพันธ์เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้

หลังผู้นำ ทั้ง 2 ประเทศจับมือกัน ว่า ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ ที่ผู้นำอาเซียน รวมทั้งนายกรัฐมนตรีของไทย อยากเห็นมานานแล้ว เพราะถือเป็นการหาทางออกร่วมกันอย่างสันติวิธี และที่ ผ่านมาอาเซียน ได้สนับสนุนมาโดยตลอด

ดังนั้น การพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำอาเซียน จะมีการแสดงความยินดี และ ความปรารถนาที่จะให้บรรยากาศแบบนี้ มีไปอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการพลิกโฉมหน้าของประวัติศาสตร์ และ ยังเป็นการลดอุณหภูมิ ในภูมิภาคลง ส่งผลต่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจอาเซียนโดยตรง

ตปท.ผู้นำสองเกาหลีพบปะหารือครั้งประวัติศาสตร์