ราชกิจจาเผยแพร่ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ระบุชัดเจน "มาตรา 9 ห้ามครม.บริหารราชการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายเศรษฐกิจประเทศ และ ประชาชนในระยะยาว" โดยให้มีผลทันที ตั้งแต่วานนี้ (20 เม.ย.)

วานนี้ (20 เม.ย.) เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 โดยมีผลบังคับใช้ทันที (20 เม.ย.2561) โดยเนื้อหากฎหมายมีทั้งหมด 87 มาตรา ระบุเหตุผลในการออกกฎหมายว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้รัฐต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฐานะทางการเงินการคลังของรัฐมีเสถียรภาพและมั่นคงอย่างยั่งยืนตามกฎหมาย ว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ กำหนดวินัยทางการคลัง ด้านรายได้และรายจ่าย ทั้งเงินงบประมาณ และเงินนอกงบประมาณ การบริหารทรัพย์สินของรัฐและเงินคงคลัง และการบริหารหนี้สาธารณะ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ 

สำหรับมาตราที่น่าสนใจได้แก่ มาตรา 9 ระบุไว้ว่า "คณะรัฐมนตรีต้องรักษาวินัยในกิจการที่เกี่ยวกับเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัตินี้อย่างเคร่งครัดในการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายการคลัง การจัดทำงบประมาณ การจัดหารายได้ การใช้จ่าย การบริหารการเงินการคลัง และการก่อหนี้ 

คณะรัฐมนตรีต้องพิจารณาประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับความคุ้มค่า และภาระการเงินการคลังที่เกิดขึ้นแก่รัฐ รวมถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐอย่างรอบคอบ คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหารราชการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว" 

มาตรา 10 ให้มี คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการ และให้ สศค.ปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการของคณะกรรมการ