รองประธานฝ่ายจัดไทยลีกยืนยันไม่ได้เป็นฝ่ายสั่งห้ามแฟนทีมเยือนเข้าชมเกมเมืองทองพบท่าเรือแต่เป็นข้อตกลงของทั้งสองสโมสรเอง

กรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด ยืนยันไม่มีการห้ามให้แฟนบอลทีมเยือนของ การท่าเรือ เอฟซี เข้าสนามในเกมพบกับเมืองทอง ยูไนเต็ด แต่ทั้งสองสโมสรได้ทำข้อตกลงจะไม่ออกไปเชียร์ในฐานะทีมเยือนในฤดูกาลนี้

หลังจากมีข่าวว่า บริษัท ไทยลีก จำกัด ลงมติห้ามให้แฟนบอลทีมเยือนอย่าง การท่าเรือ เอฟซี เข้าชมเกมที่สนาม เอสซีจี สเตเดียม จนทำให้เกิดความสับสน

รองประธานฝ่ายจัด บริษัท ไทยลีก จำกัด ในฐานะตัวแทน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศได้ ได้ชี้แจงกลางงาน มีต เดอะ วอริเออร์ ว่า

“ผมอยากจะทำความเข้าใจก่อนที่จะเริ่มเกมการแข่งขันระหว่างเมืองทองฯ กับ การท่าเรือ ตั้งแต่เมื่อวานมีการสื่อสารที่คาดเคลื่อนก็มีนักข่าวบางสำนักได้ติดต่อมาหาผม เพราะ มีกระแสข่าวออกไปทำให้เกิดความสับสน”

“ในส่วนไทยลีกและสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แน่นอนครับเราอยากจะเห็นแฟนบอลเข้ามาชมเกมเต็มสนามโดยอย่างยิ่งคู่บิ๊กแมตช์ที่คนทั่วประเทศนั้นจับตามอง เช่นเดียวกับเราก็อยากที่จะเห็นเหมือนกัน”

“แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าความสนุกในสนาม แต่สิ่งสำคัญมากยิ่งกว่าแฟนบอลเต็มสนามคือเรื่องความปลอดภัย ก็ขอขอบคุณทั้งสองสโมสรด้วยนะครับที่ให้เกียรติพูดคุยกันและได้ส่งหนังสือชี้แจงกับไทยลีกและแผนในการรักษาความปลอดภัยและเป็นความต้องการของสองสโมสรที่คิดว่าเป็นความปลอดภัยและน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า”

“โดยแฟนบอลของทีมเยือนอย่าง การท่าเรือ จะไม่เดินทางมาเข้าชมเช่นเดียวกับ เมืองทอง ที่จะไม่ไปเยือนการท่าเรือ ซึ่งทั้งสองสโมสรได้ทำข้อตกลงและชี้แจงมายังไทยลีกแล้ว ถึงแม้เราก็อยากให้คนดูเต็มสนามแต่เมื่อมันเป็นต้องการและคิดว่าเป็นความพร้อมของสโมสรที่คิดว่าน่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์เราก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด”

“เพราะฉะนั้นผมอยากจะสื่อสารตรงนี้ให้กับแฟนบอลทั่วประเทศและพี่น้องสื่อมวลชนว่าอาจจะมีกระแสข่าวที่คาดเคลื่อน คือเราไม่ได้ห้ามให้แฟนบอลทีมเยือนเข้าสนาม และตรงนี้เราก็ได้ชี้แจงที่มาที่ไปให้ทราบ”

สำหรับ แฟนบอล การท่าเรือ เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด เคยก่อเหตุวิวาทกันหลายครั้ง หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญคือเมื่อฤดูกาล 2014 จนทั้งสองสโมสรโดนตัดถึง 9 แต้ม รวมถึงเมื่อฤดูกาล 2016 จนแฟนบอลทั้งสองทีม ถูกแบนห้ามเข้าสนาม ระหว่างที่ทั้งคู่พบกัน รวมถึงมีแฟนบอลท่าเรือบาดเจ็บหนักจนต้องผ่าตัดรักษาตัวนานกว่า 5 เดือน