โชเฟอร์แท็กซี่ที่ถูกผู้โดยสารหญิงโพสต์ว่ามอมยาร้องขอความเป็นธรรม ระบุขับมานาน 7 ปีไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม พร้อมอยากให้ผู้กล่าวหาขอโทษออกสื่อ

กรณีผู้โดยสารหญิงโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า นั่งแท็กซี่จากศาลายา แต่ถูกคนขับแท็กซี่วางยาสลบ ทำให้แขนขาอ่อนแรง หัวใจเต้นเร็ว แต่โชคดีหนีรอดมาได้

ล่าสุดนายอนุศิษฎ์ บุญเพ็ง คนขับรถแท็กซี่ เปิดใจว่า วันเกิดเหตุขับรถออกจากบ้านพักใน อ.สามพราน จ.นครปฐม และรับผู้โดยสารหญิไปส่งที่พุทธมณฑลสาย 5  ระหว่างทางได้หยิบ กระปุกพิมเสนขึ้นมาสูดดมตามปกติ เพราะเป็นหวัด จากนั้ันผู้โดยสารขอลงที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนขับรถออกไปตามปกติ กระทั่งเมื่อวานช่วงเย็น เพื่อนแท็กซี่ด้วยกัน เห็นโพสต์ในเฟสบุ๊ก ได้โพสต์ข้อความกล่าวหาตนเองว่าพยายามมอมยา และอ้างว่าตนเองนำยาไปป้ายที่ช่องแอร์ ก่อนไปแจ้งความว่าถูกแท็กซี่มอมยา

ยืนยันว่าไม่เคยทำเรื่องดังกล่าว และได้ไปลงบันทึกประจำวัน ไว้เป็นหลักฐานแล้วเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ขับรถแท็กซี่ มา 7 ปีแล้ว ไม่เคยมีประวัติอาชญกรรม มีแต่ถูกผู้โดยสารโกง รู้สึกเสียใจและเครียดมาก จึงอยากให้ผู้โดยสารคนดังกล่าวออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงและขอโทษตน

รองศาสตราจารย์ด็อกเตอร์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันว่า ไม่มียาที่กระจายในอากาศ แล้วทำให้สลบได้ง่ายแบบนี้ หากมีจริงวิสัญญีแพทย์คงชอบ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบฉีดเข้าไปในร่างกายของผู้ป่วย

อีกทั้งหากมีจริงคนขับรถต้องมีอาการด้วย สันนิษฐานได้ว่า ผู้โดยสารอาจมีอาการเครียดจากการนั่งรถนาน รถสั่นคลอน อากาศไม่ถ่ายเท ทำให้เกิดการเมารถโดยไม่รู้ตัว

คนขับแท็กซี่ขอความเป็นธรรม หลังถูกสาวร้องมอมยา