"หมวดเจี๊ยบ" เตรียมเดินทางไปพร้อมทนายความ และคณะผู้สังเกตการณ์จากสถานทูตเข้ารับทราบข้อกล่าวหาผิดมาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยืนยัน วิจารณ์นายกฯ ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ชี้เป็นบุคคลสาธารณะต้องถูกวิจารณ์ได้

จากกรณีที่ร้อยโท หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ถูกเจ้าหน้าที่คสช.แจ้งข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังจากโพสต์ข้อความวิจารณ์นายกรัฐมนตรี กรณีนายกรัฐมนตรี เปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับ"ตูน บอดี้สแลม"แต่ไม่มารับเรื่องร้องเรียนจากลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพานั้น

วานนี้ (10ธ.ค.) ร้อยโท หญิง สุณิสา กล่าวว่า ในวันที่ 13 ธันวาคม เวลา 09.30 น. ตนจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่กองบังคับการตำรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ในวันดังกล่าวตนจะเดินทางไปพร้อมทนาย และคณะผู้สังเกตการณ์จากสถานทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยด้วย

พร้อมจะชี้แจงว่าการวิจารณ์ดังกล่าวเป็นไปโดยเจตนาบริสุทธิ์ และเป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 รองรับไว้ อีกทั้งการวิจารณ์นั้นไม่ใช่การ มุ่งโจมตี หรือใส่ร้ายรัฐบาล แต่ด้วยฐานะของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นถึงผู้บริหารประเทศ และเป็นบุคคลสาธารณะย่อมถูกบุคคลวิจารณ์การทำงานได้ เพื่อให้การทำงานเพื่อประเทศนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ดังนั้นกรณีที่ คสช. แจ้งความเอาผิด จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

ร้อยโทหญิง สุนิสา ได้ตั้งข้อสังเกตว่า กรณีที่ คสช. แจ้งความดำเนินคดี ฐานความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 116 และความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 รวมทั้งสิ้น 6 กระทง ซึ่งบทลงโทษสูงสุด คือจำคุกกระทงละ 7 ปี รวมเป็น 42 ปีกับประชาชนที่วิจารณ์ผู้นำรัฐบาล แสดงว่าพลเอก ประยุทธ์ต้องการส่งสัญญาณไปยังสังคมไทยว่า หากผู้ ใดที่วิจารณ์นายกฯ ที่ต้องยอมรับการตรวจสอบ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีสิทธิจำคุก 40-50 ปีด้วย ดังนั้นกรณีของบุคคลในตำแหน่งนายกฯ หากทนยอมรับเสียงวิจารณ์ไม่ได้ ควรพิจารณาลาออกจากตำแหน่ง

"หมวดเจี๊ยบ" เตรียมเข้ารับทราบข้อกล่าวหาผิด พ.ร.บ.คอมฯ 13 ธ.ค.