นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องอาวุธสงคราม ที่ถูกพบใน จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเตรียมเดินสายพบมิตรประเทศ-ตำรวจสากล ชี้แจงความบริสุทธิ์

นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้ต้องหา ในคดี ม. 112 และ ถูกออกหมายจับในคดีอาวุธสงคราม จ.ฉะเชิงเทรา ได้ออกแถลงการณ์ ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยกล่าวอ้างว่า ในที่สุดระบอบเผด็จการรัฐไทย ก็ใช้วิธียัดเยียดข้อกล่าวหาตนเอง และบุคคลอื่นๆ ว่าได้กระทำการต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องอาวุธ แต่งเรื่องผูกโยงไปถึงอาวุธจำนวนหนึ่งที่ไปจัดฉากกันไว้ก่อนแล้วที่ จ.ฉะเชิงเทรา กระบวนการยุติธรรมของไทยได้ทรุดต่ำลงมาก ถึงขั้นสนองตัณหาเผด็จการที่ทำเรื่องนี้ขึ้น เพียงเพื่อจะได้ยืดอำนาจมาปล้นชาติบ้านเมืองต่อไป เมื่อสถาบันหลักของชาติสมคบคิดกัน ก็เหลือเพียงบางสถาบัน ที่คงต้องเลือกแล้วว่า จะพายเรือให้โจรนั่ง เพื่อที่จะโดยสารไปกับโจร หรือจะเลือกอยู่ข้างประชาชนที่กำลังมองสถานการณ์ของบ้านเมือง และมองอนาคตลูกหลานด้วยความกังวลห่วงใย ถ้าเลือกผิด เมืองไทยจะเดินไปสู่ห้วงเหวแห่งความหายนะ โดยอาจเริ่มจากเครดิตเงินกู้ระหว่างประเทศของไทยที่อ่อนแรงลงต่อเนื่อง

สิ่งที่จะทำต่อไปจากนี้คือ จะเดินทางเยี่ยมเยือนมิตรประเทศของจำนวนมาก รวมทั้งสำนักงานตำรวจสากล หรือ Interpol เพื่อแถลงความบริสุทธิ์ โดยจะไม่รอให้ระบอบเผด็จการไทยใช้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการกล่าวโทษได้ก่อน จะเดินหน้าบริหารความสัมพันธ์ ตามระบบสากล อาจขอให้บางชาติร่วมกับเราอย่างถูกต้องตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อขับไล่ฝูงโจรที่กดหัวคนไทยมาเนิ่นนานนับปีอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อจะได้กลับมาร่วมมือกันอย่างสากล และเป็นประชาธิปไตยกันต่อไป

ทั้งนี้ นายจักรภพ ทิ้งท้ายว่า อย่าห่วงว่า เรื่องโกหกเช่นนี้จะเป็นอุปสรรค ในการทำงานสากล ตรงกันข้าม จะทำงานง่ายขึ้นอีกมาก เพราะเทคนิคเผด็จการแบบนี้มันเก่าซ้ำซาก จนรู้ทันและหัวเราะเยาะกันอยู่ทั่วโลก