รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยืนยัน ช่วยเหลือคดีครูจอมทรัพย์เต็มที่ แต่ในขั้นตอนการตรวจสอบ รื้อฟื้นคดี พบว่ามีขบวนการสร้างหลักฐานเท็จ ขณะที่ตำรวจออกหมายเรียก ผู้สร้างหลักพยานเท็จ 7 ราย

พันตำรวจเอกดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยกรณีศาลจังหวัดนครพนมอ่านคำพิพากษาศาลฎีกายกคำร้อง คดี นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครู จังหวัดสกลนคร ที่ยื่นคำร้องขอให้รื้อฟื้นคดีขับรถยนต์ชนคนเสียชีวิต โดยก่อนรื้อคดี กระทรวงยุติธรรม ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและพบพยานหลักฐานใหม่ คือ นายสับ วาปี และ นายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง เพื่อนครูจอมทรัพย์ ก่อนสรุปสำนวนยื่นศาลจังหวัดนครพนมขอรื้อฟื้นคดีใหม่ เพราะศาลเชื่อว่ามีผู้กระทำผิดตัวจริงมามอบตัว คือ นายสับ และยังจ่ายเงินเยียวยาให้ญาติผู้เสียชีวิตด้วย

ทั้งนี้เมื่อนำนายสับ วาปี นายสุริยา และ ครูจอมทรัพย์ เข้าเครื่องจับเท็จ พบว่า นายสับ วาปี และ นายสุริยา มีพิรุธ เครื่องฟ้องว่าให้การเท็จ ส่วน ครูจอมทรัพย์ เครื่องไม่สามารถอ่านค่าได้ ทำให้เชื่อได้ว่า คดีนี้มีขบวนการรับผิดแทนกันสร้างหลักฐานเท็จเกิดขึ้นมา ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากพยานหลักฐานใหม่ ก็ต้องแยกออกจากคดีครูจอมทรัพย์ที่มาขอความเป็นธรรม จากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อ ส่วนคดีครูจอมทรัพย์จะให้ความช่วยเหลือเต็มที่

ขณะที่ พลตำรวจตรีสุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อสอบสวนเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่มีการสร้างพยานเท็จรับผิดแทน

เบื้องต้น แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว รวม 7 ราย มี นายสุริยา ซึ่งเป็นเพื่อนของครูจอมทรัพย์ นายสับ วาปี  รวมทั้งญาตินายสับและพยานปากสำคัญ ที่ออกมายืนยันกับตำรวจ ว่า อยู่ในเหตุการณ์ ในข้อหาร่วมกันแจ้งความอันเป็นเท็จ ซึ่งจะออกหมายเรียกไปยังผู้ถูกกล่าวหา หากไม่มารายงานตัวตาม ต้องออกหมายจับต่อไป