ตำรวจเร่งล่าตัวรองเจ้าอาวาสวัดดังที่จังหวัดอุดรธานี เมาสุราใช้ขวานฟันชายวัย44 ปีเสียชีวิตเพราะแค้นที่มาทวงค่าไก่ชน ก่อนบังคับให้ลูกศิษย์วัด 2 คน ขุดหลุมฝังโบกปูนทับอำพรางคดี

ชาวบ้านและตำรวจภูธรโนนสูง จังหวัดอุดรธานี พยายามสกัดปูนซีเมนต์บริเวณลานวัดศรีบุญเรือง หมู่ 13 ตำบลโนนสูง จุดที่เด็กชายวัย 11 ปี ระบุว่า เป็นจุดฝังอำพรางศพนายวิชาญ พรหมมินทร์ อายุ 44 ปี ซึ่งญาติได้แจ้งความว่าหายตัวไปตั้งแต่เย็นวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายที่บ้านงานศพในหมู่บ้าน และพบเพียงรถจักรยานยนต์ของผู้ตายจอดทิ้งไว้

เจ้าหน้าที่ได้ใช้อุปกรณ์สกัด และใช้รถไถช่วยในการนำปูนซีเมนต์ออก ก่อนขุดหลุมลึกประมาณ 80 เซนติเมตร จึงพบศพนายวิชาญ เสียชีวิตในลักษณะถูกขวานสับที่ศีรษะและใบหน้า

ส่วนผู้ก่อเหตุฆ่านายวิชาญ พยานที่เป็นเด็กชายระบุว่า คือพระสงกรานต์ สินไชย อายุ 41 ปี รองเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ที่ร่วมกับนายบีและนายซี เด็กวัดวัย 15 ปี อีก 2 คน แต่ขณะนี้ได้หลบหนีไปพร้อมนายบีแล้ว

เด็กชายที่เป็นพยานยังเล่าว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 20 ตุลาคม ระหว่างที่ตนยังบวชเป็นสามเณร เห็นผู้ตายซึ่งเมาสุรามาที่กุฎิของพระสงกรานต์ ขณะนั้นพระสงกรานต์และเด็กวัดที่ก่อเหตุอีก 2 คน นั่งดื่มสุราอยู่

จากนั้นผู้ตายได้ทวงเงินค่าไก่ชนจนสร้างความไม่พอใจ พระสงกรานต์และเด็กวัดจึงรุมทำร้ายผู้ตายจนสลบ ก่อนที่พระสงกรานต์จะใช้ขวานสับไปที่ศีรษะผู้ตาย และบังคับเด็กวัดขุดหลุมที่ลานวัด นำร่างผู้ตายไปฝังพร้อมจีวรและกางเกงของเด็กวัดที่เปื้อนเลือด โดยนำต้นกล้วยมาทับ ก่อนฝังกลบ พร้อมขู่ตนและเด็กวัดเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่เช่นนั้นจะถูกฆ่าเช่นกัน

พอรุ่งเช้า ตนจึงขอลาสึกกลับไปอยู่บ้าน และมาทราบว่าญาติผู้ตายได้ไปแจ้งความคนหาย จึงเล่าให้พี่ชายฟัง

ด้านพลตำรวจตรีพีระพงศ์ วงษ์สมาน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ระบุว่า หลังทราบเรื่อง นำกำลังไปที่กุฏิพระสงกรานต์ พบว่าได้ถอดผ้าเหลืองหลบหนีไปกับนายบี จึงได้ไปนำตัวนายซี ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวน ให้การยืนยันเช่นเดียวกับ ด.ช.เอ และนำมาชี้จุดฝังศพ

ทั้งนี้ ยังพบว่า หลังจากนำศพผู้ตายมาฝัง รุ่งเช้าวันที่ 21 ตุลาคม พระสงกรานต์ ได้สั่งซื้อหินลูกรัง 4 คันรถมาถมทับหลุมศพ และอีกวัน ได้สั่งปูนสำเร็จรูปมาเททับเป็นลานกว้าง 4x6 เมตร โดยให้เหตุผลกับเจ้าอาวาสวัดว่า จะสร้างกุฏิใหม่ แต่เมื่อรู้ว่าตำรวจได้ตามหาผู้ตาย จึงหลบหนีไป คาดว่าจะหนีไปกรุงเทพ 

และจากการสืบสวนเชิงลึก ทราบว่า พระสงกรานต์บวชหน้าไฟให้พ่อแม่ที่เสียชีวิต และไม่สึกอีกเลยรวม 13 พรรษา กระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน ได้มาจำพรรษาที่วัดศรีบุญเรือง จนได้เป็นรองเจ้าอาวาส แต่มีพฤติกรรมนำเด็กวัยรุ่นมามั่วสุมในกุฏิ ดื่มเหล้า และเสพยาบ้า แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาวุ่นวาย หรือว่ากล่าวตักเตือน กระทั่งมาก่อเหตุฆ่าฝังดิน พี่ชายจึงให้ตนมาบอกตำรวจ

รองเจ้าอาวาสใช้ขวานฆ่าโหดหนุ่มใหญ่ฝังดินโปกปูนทับในวัด