กลายเป็นเรื่อง เมื่อมีกระแสข่าวที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติงบกว่า 900 ล้านบาท ให้จัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพากว่า 1 พันเครื่อง ราคาเครื่องละ 9 แสนบาท โดย"นายวีระ สมความคิด"โพสต์วิจารณ์ว่า เป็นการจัดซื้อในราคาที่แพงเกินจริง และไม่เหมาะสมที่อนุมัติโครงการในช่วงนี้

นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น( คปต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ช่วงใกล้งานพระราชพิธีสำคัญ ตนตั้งใจจะหยุดโพสต์เพื่อสงบจิต แต่ข่าวที่ส่อความไม่โปร่งใสก็มีมาทุกวันไม่ยอมหยุด ล่าสุดกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทยจะจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา จำนวน 1,064 เครื่อง ราคาเครื่องละ 9 แสนบาท รวมเป็นเงิน 957 ล้านบาท ทั้งที่มีเครื่องอีกแบบใช้ได้ดีราคาเพียงเครื่องละ 130,000 บาทเท่านั้น แต่ไม่ซื้อ

ช่วงปลายปี 2559 สำนักงบประมาณได้ติงเตือนไปแล้วว่า ราคาสูงเกินไป รัฐบาลต้องหยุดชะงัก แต่วันนี้รัฐบาลกลับอาศัยช่วงจังหวะที่คนไทยส่วนใหญ่กำลังใจจดใจจ่อกับงานพระราชพิธีสำคัญอนุมัติโครงการดังกล่าวจนได้ จึงต้องถามว่า สมควรจะทำ และเหมาะสมหรือไม่?

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า ที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับกระทรวงมหาดไทย อนุมัติโครงการจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา 1,064 เครื่อง รวมเป็นเงิน 957 ล้านบาท

ด้านพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงกล่าวถึงกระแสข่าวคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา วงเงินกว่า 900 ล้านบาทว่า เนื่องจากคณะกรรมการความปลอดภัยทางถนน สรุปว่า จะต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อใช้ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 

จึงต้องมีเครื่องตรวจจับความเร็ว ดังนั้น จึงขอให้รัฐบาลจัดซื้อ เพราะเครื่องมือที่ใช้ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นถนนสายรอง หรือถนนในระดับชุมชนหมู่บ้าน ที่พบสถิติการเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของการขอจัดซื้อจากรัฐบาล

แต่รัฐบาลจะให้จัดซื้อจำนวนเท่าไรนั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของตนเอง ตนมีหน้าที่เพียงนำความต้องการไปเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเท่านั้น และผู้จัดซื้อก็ไม่ใช่กระทรวงมหาดไทย แต่เป็นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่จัดซื้อ แต่หากพบว่า ขั้นตอนใดทุจริต ตนจะลงโทษอย่างเด็ดขาด ไม่มียกเว้น แม้แต่ระดับอธิบดี

ด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการเสนอว่า มีความจำเป็นหรือไม่ ซึ่งผู้เสนอเป็นกรรมการภาคเอกชน คือมูลนิธิเมาไม่ขับ และองค์กรต่างๆ ได้เสนอเข้ามาทุกปี แต่ที่ผ่านมายังไม่มีงบประมาณ และเพิ่งจะได้รับงบประมาณกลางในปีนี้

ขณะที่นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย กล่าวชี้แจงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) มีมติเห็นชอบให้สนับสนุนเครื่องตรวจจับความเร็วแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่ โดยมอบหมายให้ ปภ. รับผิดชอบดำเนินการ ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 4 ต.ค.59 เห็นชอบให้ ปภ. จัดหาเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย

สำนักงบประมาณ จึงมีหนังสือแจ้งว่า นายกฯเห็นชอบในหลักการให้ ปภ.ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา 849 เครื่อง เครื่องละ 675,000 บาท ในวงเงิน 573 ล้านบาท

ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้อยู่ในขั้นตอนการจัดหา เป็นเพียงการอนุมัติในหลักการให้ ปภ.รับผิดชอบในการจัดหาเท่านั้น เมื่อเข้าสู่กระบวนการจัดหา มีความเป็นไปได้ที่ ปภ.จะได้เครื่องตรวจจับความเร็วที่ต่ำกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ข้างต้น

มท.1 แจงถึงความจำเป็นต้องซื้อตรวจจับความเร็วพกพา