อดีตผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้ารับทราบข้อหา หลังถูกแจ้งข้อหาพัวพันทุจริตเงินทอนวัด

นายฉัตรชัย ชูเชื้อ อดีตผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ / ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจหน้าที่เบียดบังทรัพย์เป็นของตนเอง และปลอมแปลงเอกสารทางราชการ

หลังพบว่า นายฉัตรชัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนะ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยเป็นตัวแทนในการจัดสรรงบบูรณปฏิสังขร ให้กับวัดในเครือ 12 วัด แบ่งเป็นภาคเหนือ 9 วัด และภาคใต้ 3 วัด รวมมูลค่าความเสียหาย 19,375,000 บาท

ขณะที่นายพยงค์ สีเหลือง อดีตนายช่างโยธา ชำนาญงานกองพุทธศาสนสถาน ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน ซึ่งนายพยงค์ มีพฤติการณ์คอยรับคำสั่งจากนายฉัตรชัย ในการติดต่อกับวัดในการเจรจาและการรับเงิน

ด้านพลตำรวจตรีกมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริต และประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธ แต่ทาง ปปป. มีหลักฐานที่เชื่อว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอน

ส่วนสำนวนทั้ง 23 คดี ที่มีการกล่าวอ้างพระสงฆ์ 4 รูป ที่เกี่ยวข้องกับการรับเงิน ในวันที่ 26 กันยายนนี้ ปปป. จะส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเพิ่มเติม โดยขณะนี้มี ผู้ต้องหา 5 คนจาก 19 คน เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

อดีต ผอ.กองพุทธศาสนสถาน รับทราบข้อหาทุจริตเงินทอนวัด