นายกรัฐมนตรีปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง ระบุ ประเทศอยู่ระหว่างการปรับปรุงและพลิกฟื้น จึงขออย่าเพิ่งติเรือทั้งโกลน ชี้โลกสมัยเปลี่ยนแปลง ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้กับเข้ากับโลกปัจจุบันให้ได้

เมื่อช่วงเช้า วานนี้ (21 ก.ย.) ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ดิจิทัลกับการขับเคลื่อนเศรฐกิจและสังคมในประเทศไทย 4.0" ในงาน "Digital Thailand Big Bang 2017" ซึ่งจัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อโลกเปลี่ยน ทุกคนก็ต้องปรับตัวไปด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเอง ก็ต้องปรับเปลี่ยนเช่นกัน เพราะถ้าทุกคนไม่ปรับเปลี่ยนตัวเอง ทุกอย่างจะเดินหน้าไปไม่ได้ โดยเฉพาะการจะไปสู่วิสัยทัศน์ของชาติเรื่องความมั่นคง มั่งคั่ง และยังยืน

สำหรับโครงการเน็ตประชารัฐ เหมือนการให้อินเตอร์เน็ตแก่ชาวนา คล้ายรัฐบาลหาแหล่งน้ำ ปลา และปล่อยปลาตัวเล็กให้ ซึ่งถือเป็นการลงทุนเพื่อขยายไปหาปลาตัวใหญ่ โดยทุกคนจะมีเบ็ดตกปลาอย่างทั่วถึง สามารถตกปลามากินกันได้ทุกคนดังนั้นจึงต้องสร้างฐานราก ตั้งแต่ระดับชุมชน ท้องถิ่นจังหวัด ภาค เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจใหม่ขึ้นมา ไม่ใช่สร้างแหล่งน้ำให้เฉพาะผู้มีสตางค์เท่านั้น

นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศอยู่ระหว่างการปรับปรุง ระยะแรกอาจมีปัญหาบ้าง เพราะอยู่ในช่วงกำลังพลิกฟื้น จึงต้องทำให้มีปัญหาน้อยที่สุด จึงขออย่าเพิ่งติเรือทั้งโกลน หรือ ติโขนยังไม่ทรงเครื่อง ขอให้ทุกคนร่วมมือกันนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า

สิ่งสำคัญในยุคนี้คือการสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังสร้างนักรบไซเบอร์ 1,000 คนในปีหน้า เพื่อเฝ้าระวัง รักษาความปลอดภัย แก้ปัญหา หากพบว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยให้ดีขึ้นในทุกมิติ

นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศอยู่ระหว่างการปรับปรุง ระยะแรกอาจมีปัญหาบ้าง เพราะอยู่ในช่วงกำลังพลิกฟื้น จึงต้องทำให้มีปัญหาน้อยที่สุด จึงขออย่าเพิ่งติเรือทั้งโกลน หรือ ติโขนยังไม่ทรงเครื่อง ขอให้ทุกคนร่วมมือกันนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า

สิ่งสำคัญในยุคนี้คือการสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังสร้างนักรบไซเบอร์ 1,000 คนในปีหน้า เพื่อเฝ้าระวัง รักษาความปลอดภัย แก้ปัญหา หากพบว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยให้ดีขึ้นในทุกมิติ

ภายหลังเสร็จสิ้นการเปิดงาน นายกฯปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อในประเด็นอื่นๆ นอกจากเรื่องเกี่ยวกับงานดิจิทัลเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ 2 วันติดต่อกัน  ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทีมงานนายกฯ ได้ประสานให้ผู้สื่อข่าวส่งประเด็นคำถามมาให้ก่อน โดยสื่อมวลชนได้ส่งไป 4 คำถาม ประกอบด้วย 1.การเยือนสหรัฐอเมริกาเตรียมเจรจาเรื่องใดบ้าง 2.หารือกับ ผบ.ทบ.เมื่อวันที่ 20 กันยายน มีเรื่องใดบ้าง 3.มีความเห็นอย่างไรที่อีสานโพลที่ยังหนุนพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และ 4.กรณีสื่อญี่ปุ่นนำเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-เวียดนามล่าช้า ด้อยคุณภาพด้อย และงบประมาณบานปลาย 

ขณะที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 2/2560 เรื่อง แต่งตั้งผู้ดํารงตําแหน่งใน คสช.โดยเปลี่ยนแปลงให้นายทหารที่เพิ่งได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเข้ามาดํารงตําแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้ามาเป็นสมาชิกคสช. ประกอบด้วย พลเอก เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ที่จะเข้ามาเป็นปลัดกระทวงกลาโหม พลเอก ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ที่จะเข้ามาเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด และพลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ที่จะเข้ามาเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1ต.ค.2560

ด้านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรว่า เป็นการเรียกเรตติ้งให้รัฐบาลว่า ยืนยันว่าการลงพื้นที่ประชุมครม.สัญจรไม่ได้เป็นการเรียกเรตติ้งให้รัฐบาล  แต่เป็นการลงพื้นที่เพื่อติดตามงานที่ได้สั่งการไปเท่านั้น ซึ่งตนคิดว่าพวกนักการเมืองชอบหาเรื่องให้รัฐบาล ขอย้ำว่าจะรัฐบาลไม่มีการสร้างภาพ เพราะไม่คิดจะลงเลือกตั้งแข่งกับนักการเมืองอยู่แล้ว